เครือข่ายภาคประชาชน ‘ค้านกัญชา’ กลับเป็นยาเสพติด
"สมาพันธ์กัญชาเพื่อประชาชน" ยื่นหนังสือคัดค้านการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ชี้อาจส่งผลเสียเป็นวงกว้าง พร้อมขอเพิ่มเติมเนื้อหากฎหมายควบคุมกัญชาเพื่อนันทนาการ
นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง พ.ศ. .... รับยื่นหนังสือจาก นายชัชปัฐวี อัฏฐพรเมธา ตัวแทนสมาพันธ์กัญชาเพื่อประชาชนเรียกร้องให้พิจารณาแก้ไขกฎหมายและระเบียบต่างๆ ในการควบคุมกัญชาทางการแพทย์ กัญชาเพื่อการนันทนาการและกัญชง
โดยในฐานะ กลุ่มตัวแทนของภาคประชาชน ที่ทำงานผลักดันเรื่องการเปลี่ยนแปลงกฎหมายกัญชาในประเทศไทยมามากกว่า 10 ปี ขอยืนยันสิทธิในการใช้กัญชาบนขอบเขตที่ไม่สร้างความเดือดร้อนให้แก่สังคม หากวันนี้กัญชาต้องกลับเข้าไปอยู่ในบัญชียาเสพติดอีกครั้ง ภาคประชาชนเห็นว่าผลกระทบและผลเสียที่จะเกิดขึ้นนั้น จะสร้างความเสียหายกับประชาชนในวงกว้าง ซึ่งจะส่งผลให้มีประชาชนจำนวนมากจะถูกดำเนินคดีทางอาญา และจะส่งผลให้ทุกอย่างกลับลงไปสู่ระบบใต้ดินที่รัฐไม่มีความสามารถในการควบคุมใดๆ และสุดท้ายปัญหาเหล่านี้ก็จะทวีความรุนแรงมากขึ้นและส่งผลกระทบที่รุนแรงเกินกว่าที่หลายฝ่ายคาดคิด
ทั้งนี้ ขอให้เพิ่มเติมเนื้อหากฎหมายควบคุมกัญชาเพื่อนันทนาการ ที่ชัดเจนตามรูปแบบ โดยมีตัวบทแยกกันอย่างชัดเจนระหว่างกัญชาเชิงการแพทย์และกัญชาเพื่อนันทนาการ เพื่อคุ้มครองสิทธิผู้ป่วย ผู้ใช้ ผู้จำหน่าย ควบคู่ไปกับป้องกันการเข้าถึงของเยาวชนภายใต้ระเบียบควบคุมที่ชัดเจน โดยไม่สร้างเงื่อนไขหรือการกีดกันทางการค้า หรือจำกัดสิทธิใดๆ ที่ขัดแย้งกับเจตนารมณ์ของกฎหมายที่ประชาชนควรจะได้รับอย่างถูกต้อง
ด้าน นายศุภชัย ใจสมุทร กล่าวว่า กฎหมายกัญชา กัญชง กำลังจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร สำหรับข้อเสนอที่ทางกลุ่มเสนอมานั้น ข้อเสนอบางเรื่องเป็นอำนาจหน้าที่ของสภาผู้แทนราษฎรที่จะพิจารณาภายใต้กรอบของร่าง พ.ร.บ. และมีหลายเรื่องเป็นอำนาจของกระทรวงสาธารณสุขที่เป็นผู้กำหนดและผู้ออกประกาศ ทั้งนี้ จะนำข้อเสนอส่งให้กระทรวงสาธารณสุขเพื่อพิจารณาและให้แจ้งความคืบหน้าแก่ทางสมาพันธ์ฯ เพื่อทราบต่อไป