จับตาสร้างอนาคตไทยควบชาติพัฒนากล้าสู้ศึกเลือกตั้ง
กติกาเลือกตั้ง 2ใบ ทำให้พรรคการเมืองขนาดกลางจำเป็นต้องมาจับมือกันร่วมงานการเมือง เพื่อสู้ศึกเลือกตั้งครั้งหน้า
ก่อนนี้มีความเคลื่อนไหวนัยว่าจะมาควบรวมระหว่าง 3 ส. สุวัจน์ ลิปตภัพลพ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทยและสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เพื่อให้มีอำนาจต่อรองทางการเมือง เป็นขั้วทางเลือกที่ 3 มาตั้งแต่ก่อนศาลรัฐธรรมนูญ มีคำวินิฉัยสูตรเลือกตั้งหาร100
โดยเฉพาะการเจรจาระหว่าง ส.สมคิดกับส.สุดารัตน์ ซึ่งมีมาก่อนใครแต่เพราะแกนนำทั้ง2ฝั่งยอมที่จะให้กันไม่ได้ในหลายเรื่อง กระทั่งเมื่อส.สุดารัตน์ เผยเมื่อ 9ธ.ค.65 ไทยสร้างไทย จะไม่ไปรวมพรรคกับพรรคการเมืองใดอีกส่งสัญญาณว่าการเจราควบรวมเป็นอันต้องพับโต๊ะ ไม่ประสบความสำเร็จไปต่อไม่ได้ นำมาสู่การเจราระหว่างส.สมคิดกับส.สุวัจน์ มีกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้าที่มารวมกับส.สุวัจน์อยู่ก่อนแล้ว
มีความเป็นไปได้ว่า การควบรวมระหว่างสร้างอนาคตไทย-ชาติพัฒนากล้าดีลนี้น่าปิดได้เร็ว สอดรับกับ สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการสร้างอนาคตไทย ยอมรับว่า การพูดคุยเจรจาคืบหน้าเป็นไปในทิศทางที่ดีคาดว่าจะมีการเปิดเผยข่าวดีในเร็วๆวันนี้
คาดกันว่า การเจราจาควบรวมพรรค ส.สมคิดจะชูแก้ไขปัญหาปากท้อง จากผลงานในอดีตที่เคยควบคุมกับดูแลกระทรวงเศรษฐกิจ ประกอบร่างรวมกับนโยบายกับกลุ่มกรณ์อดีตขุนคลังคว้ารางวัลระดับโลก เสริมจุดเด่นลบจุดด้อย ผนวกกับความเก๋าเกมทางการเมือง ส.สุวัจน์ การควบรวมมีความเป็นไปได้สูง นำไปสู่การต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีเศรษฐกิจในรัฐบาลหน้า
อย่าลืมว่าทั้ง ส.สุวัจน์ กับส.สมคิด มิใช่ว่าไม่เคยร่วมงานทางการเมืองกันมาก่อนแต่ต่างรู้จักกันมานับ10ปีตั้งแต่สมัยอยู่ร่วมกันใต้ชายคาไทยรักไทย การเลือกตั้งเมื่อปี2550 ก็เคยจับมือกันตั้งพรรครวมใจไทยชาติพัฒนา และ2สองส.ยังไปต่อได้กับเพื่อไทยหากชนะเลือกตั้งแลนด์สไลด์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล อย่างไม่เคอะเขิน ต่างจากส.สุดารัตน์โอกาสจะไปต่อกับเพื่อไทย มีความเป็นไปได้น้อยด้วยเนื้อในไม่สนิทกันแล้ว