"ชูวิทย์"รณรงค์ต่อต้านนโยบายกัญชาเสรี

เมื่อวันที่ 21มี.ค.2566 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง ทำกิจกรรรณรงค์ต่อต้านกัญชาเสรี ตามที่เคยประกาศไว้ว่าจะทำกิจกรรมหลังยุบสภา ที่บริเวณซอยละลายทรัพย์ หรือสีลมซอย 5 โดยมีการแจกเสื้อ 500ตัวและสติ๊กเกอร์ รวมถึงเข็มกลัด ที่มีข้อความ ‘ยกเลิก กัญชาเสรี No Coruption’ ซึ่งมีประชาชนมาต่อแถวรับบัตรคิวเพื่อขอรับเสื้อจำนวนมาก
   
กิจกรรมครั้งนี้ นายชูวิทย์ ระบุว่า เพื่อเป็นการรณรงค์ให้ประชาชนที่เห็นด้วยกับการไม่สนับสนุนนโยบายกัญชาเสรี ซึ่งนายชูวิทย์ ได้ถามประชาชนที่มารอรับเสื้อว่า เห็นด้วยหรือไม่ ประชาชนตอบกลับว่า ไม่เห็นด้วย

จากนั้นนายชูวิทย์ ได้เดินรณรงค์ และแจกสติ๊กเกอร์ รวมถึงเข็ดกลัดภายในซอยละลายทรัพย์ โดยมีประชาชน ที่มาจับจ่ายซื้อของ และพ่อค้าแม่ค้า ขอรับเข็มกลัดจำนวนมาก

จากนั้นนายชูวิทย์ ได้ตั้งโต๊ะแดงแถลงข่าวว่า ภารกิจของตนเองได้เริ่มอย่างเป็นทางการแล้วทันทีหลังยุบสภา เพื่อไม่ให้ต่อต้านพรรคการเมืองที่นำกัญชาเข้ามาในสังคมไทย  และเหตุผลที่เลือกมาสีลม เพราะมีประชาชนจำนวนมาก และวันนี้ได้สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนไม่ได้เอานโยบายกัญชาและจะเดินหน้าเรียกร้องให้เอากัญชากลับเข้าสู่บัญชีทางการแพทย์เท่านั้น

ทั้งนี้ นายชูวิทย์ ยังอธิบายเหตุผลถึงการต่อต้านพรรคที่มีนโยบายกัญชา มีพรรคการเมืองต่างๆพรรคไหนที่ซื้อ ส.ส.มากที่สุด ซื้อกล้วยมากที่สุด และเอาคนมาสังกัดมากที่สุด และขอตั้งคำถามว่า คุณเอาเงินที่ไหนมาซื้อ ใช้เงินส่วนตัว หรือเงินทำธุรกิจหรือไม่ ก็ไม่ใช่แต่เอาเงินมาจากการเมือง ดังนั้น ต้องทำลายวัฏจักรวงจรอุบาทว์นี้ เพื่อไม่ให้พรรคการเมืองซึ่งอาศัยเงินทุนไปซื้อตัวในสภา เพื่อมาสังกัดพรรคตัวเอง และหวังว่าจะกลับมาเป็นรัฐบาลใหม่เพื่อกลับมาลงทุนกับตัวเองที่จ่ายเงินไป”
   

ส่วนเหตุผลที่สองที่ต้องออกมารณรงค์ เพราะนโยบายต่างๆที่เอาออกมาใช้ล้วนเป็นนโยบายอำพราง ที่ออกนโยบายไป แล้วกินค่าคอมมิชชั่นจากงบประมาณโครงการต่างๆและการนำเอากัญชาเข้ามาในสังคมโดยไม่ระมัดระวังล้วนทำให้สังคม ครอบครัวเดือดร้อน ไม่มีที่ไหนในโลกขายกัญชาเสรีเหมือนประเทศไทย ทั้งนี้มองด้วยว่า บรรดาหมอต่างๆในกระทรวงสาธารณสุขก็ควรลาออกไปไม่ควรมาเป็นหมออีก เพราะผิดจรรยาบรรณ  

นายชูวิทย์ ยังบอกอีกว่า หลายคนถามว่าทำไมเพิ่งต่อต้าน ก็เพราะเพิ่งเห็นพิษร้ายแรงในสังคม เด็กและเยาวชนได้รับความเดือดร้อนและการออกมาต่อต้านกัญชาเสรี วันนี้เป็นวันแรก ก็ไม่ได้ตัดเรื่องการเมืองออกแต่เอาเรื่องทุจริตคอรัปชั่นมาพูด และตนเองมีเวลาเหลือไม่เยอะเหลือแค่45-60วัน ที่จะเดินสายรณรงค์ และหลังเลือกตั้งเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาล ตนเองก็จะไปรณรงค์ เพื่อไม่ให้พรรคใดพรรคหนึ่งเข้ามาใช้ทุนในการครอบงำและหากินโดยเฉพาะกระทรวงคมนาคมจะต้องไม่ให้พรรคภูมิใจไทย ซึ่งมองว่าเป็นพรรครับเหมา มาเอากระทรวงคมนาคมไปอีก ภาคประชาชนก็จะเป็นคนกำหนดทิศทางไม่ใช่พรรคการเมือง ประชาชนอย่างเราจะกำหนดทิศทางรัฐบาลในสมัยหน้า อะไรไม่เหมาะสมจะออกไปรรณงค์ และร้องเรียน และการเป็นพรรคการเมืองไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นรัฐบาลเสมอไป

และนายชูวิทย์ ยังบอกอีกว่า จะเดินสายรณรงค์ไปทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ ส่วนจะไปเริ่มเมื่อไรนั้น ก็รอให้ประกาศ พรบ.เลือกตั้งก่อน แต่ในวันจับเบอร์ของพรรคการเมืองและผู้สมัครฯ จะไปที่นั่นก่อนแน่นอน เพื่อไปรณรงค์สาปแช่งขอให้วิบัติสำหรับใครที่โกงกินงบประมาณ คอรัปชั่น และหากใครโกงก็ขอให้พังสูญไปจากการเมืองไทยและในวันที่ 4 เม.ย.นี้จะเดินทางไปที่สนามกีฬายูสเตเดี้ยม ม.ธรรมศาสตร์รังสิต เพื่อรับชมการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก คู่ แบงค็อก ยูไนเต็ด พบ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วย โดยตนเองจะไปยืนเชียร์ และไปแจกรณรงค์ No Coruptionด้วย