ตั้งรัฐบาล66:ชนวนเหตุ หุ้นไอทีวี พิธา พลิกเกมการเมืองไทย
เส้นทาง พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล พา 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' เป็นนายกรัฐมนตรี ยังเต็มไปด้วยปัญหา การแบ่งตำแหน่งสำคัญทางการเมือง กระทรวงต่างๆยังไม่ลงตัว ขณะที่ การถือครองหุ้น ไอทีวี4.2หมื่นหุ้น พิธา เริ่มเข้มข้น บทสรุปสุดท้ายอาจส่งผลต่อ เกมการเมืองไทย ได้เลยทีเดียว
เส้นทาง พรรคก้าวไกล ในการจัดตั้งรัฐบาล นำพา 'พิธา ลิ้มเจริญรัตน์' เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่30 ยังเต็มไปด้วยปัญหา การจัดสรรปันส่วน ตำแหน่งสำคัญทางการเมือง โควต้ารัฐมนตรี การแบ่งกระทรวง ยังไม่ลงตัว
การหาเสียง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.) หรือ สมาชิกวุฒิสภา(สว.) เพื่อโหวตให้ชนะ สว. ตามที่บอก มีการรวมเสียงได้บ้างแล้ว แต่ยังห่างไกลจากเป้าหมายที่ควรจะเป็น
ยังไม่ถึงวัน โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี การจัดสรรตำแหน่งสำคัญๆ เต็มไปด้วยปัญหา ตำแหน่ง ‘ประธานสภาผู้แทนราษฎร’ พรรคก้าวไกล กับ พรรคเพื่อไทย เปิดศึกช่วงชิง ดุเดือด เข้มข้น รุนแรง ไม่มีใครยอมใคร ผลสรุปจะออกมา
ประธานสภาฯ เป็นของ พรรคก้าวไกล
ประธานสภาฯ เป็นของ พรรคเพื่อไทย
ประธานสภาฯ เป็นของ หนึ่งในพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล
แม้ปัญหา การจัดสรรตำแหน่งสำคัญๆทางการเมืองลงตัว มีประเด็น การถือครองหุ้น บริษัทไอทีวี จำกัด(มหาชน) จำนวน 4.2 หมื่นหุ้น ของพิธา เป็นอีกเรื่อง ประมาทและมองข้ามไม่ได้ ถึงขนาดที่มีการบอกกันว่า ชนวนเหตุนี้ ส่งผลต่อ ชะตากรรม พิธา-พรรคก้าวไกล ได้เลยทีเดียว
‘เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ’ ในฐานะผู้ร้อง ยื่นเอกสารต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ต่างกรรมต่างวาระ ให้ตรวจสอบ การถือครองหุ้นไอทีวี 4.2 หมื่นหุ้น ในคำร้อง ขอให้ตรวจสอบ และยังร้องขอให้ กกต.ส่งเรื่องต่อไปยัง ศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยชี้ขาด ชี้ชะตา พิธา และ พรรคก้าวไกล
ประวัติศาสตร์การเมือง ว่าด้วย ‘การถือครองหุ้น’ เกี่ยวพันข้อกฎหมาย จนต้องส่ง ศาลพิพากษา ใช่ว่าจะไม่เคยเกิดขึ้น หนึ่งในคดีประวัติศาสตร์
ทักษิณ ชินวัตร ซุกหุ้น เมื่อปี 2544
ช่วงเวลานั้น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิด ทักษิณ ฐานความผิด จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ กรณีซุกหุ้นไว้กับ คนรับใช้ คนขับรถ พร้อมกับส่งต่อคดีให้ ศาลรัฐธรรมนูญชี้ขาด ตามมาตรา 295 ของรัฐธรรมนูญปี 2540
หากผิดจริง ทักษิณต้องหลุดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ทันที
ผลการวินิจฉัย ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 8 ต่อ 7 ทักษิณ รอดพ้นไปได้อย่างหวุดหวิด หลังจากนั้น มีเรื่องราว-เรื่องเล่า ถูกพูดถึง เบื้องหน้า-เบื้องหลัง การใช้หลัก นิติศาสตร์ นำ รัฐศาสตร์ หรือ รัฐศาสตร์ นำ นิติศาสตร์
ผลจาก คำวินิจฉัยเวลานั้น ส่งผลให้ ทักษิณ ได้เข้ามาบริหารประเทศ มีเหตุการณ์หลายต่อหลายอย่างเกิดขึ้น ทักษิณ ยังอยู่ใน สมการการเมืองมาจนถึง วันนี้
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ผู้นำGeneration 2 พรรคก้าวไกล รับไม้ต่อจาก พรรคอนาคตใหม่ เพียงแค่การเลือกตั้งสมัยที่2 กลายเป็นพรรคอันดับหนึ่ง ชนะเลือกตั้ง ตราบใด ยังไม่มี คำวินิจฉัยชี้ขาด เรื่องนี้ก็ยัง ไว้วางใจไม่ได้
การตีความทางกฎหมาย ไอทีวี แม้จะไม่ได้อยู่ใน ตลาดหลักทรัพย์แล้ว แต่การคงสถานะ บริษัทไว้ ยังไม่ได้แจ้งเลิกจดทะเบียนการค้า ตลอดจนบริษัท ยังส่ง งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ จนถึงปัจจุบัน จะมีผลทางกฎหมาย ทางร้ายดี ส่งผลมาถึง พิธา หรือไม่อย่างไร เป็นในรายละเอียดทางกฎหมาย ประเด็นข้อถกเถียง ที่ยัง วิเคราะห์มองต่างมุมมอง
การวินิจฉัย ตัดสินทั้งจาก กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ จะเกิดในช่วงไหน
ก่อนการนัดประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อโหวตเลือก ประธานสภา-รองประธานสภาผู้แทนราษฎร(25ก.ค.)
หรือจะเกิดก่อน การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี(3ส.ค.)
หรือจะเกิดหลังจากแต่งตั้ง คณะรัฐมนตรีพิธา แล้วเสร็จ ได้เข้าไปทำงานใน ทำเนียบรัฐบาล ไปแล้ว
ผลคำตัดสิน วินิจฉัย จะออกมา เป็นบวก หรือ เป็นลบ ไม่ว่าจะเกิดช่วงเวลาไหน บทสรุปบรรทัดสุดท้ายจะเป็นอย่างไร เรื่องราวนี้ จะถูกบันทึกไว้ อีกหน้าหนึ่งประวัติศาสตร์ ล้วนส่งผลต่อ 'โฉมหน้า จุดเปลี่ยนเกม กระดานการเมืองไทย' อย่างแน่นอน