ชลน่าน รับ กลัวถูกประณาม เสนอชื่อ ประธานสภาฯ ประกบก้าวไกล

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงความคืบหน้าการหารือตำแหน่งประธานสภาฯว่า พรรคก้าวไกลแจ้งนัดหมายหารือในวันที่ 2 กรกฎาคม และจะมีการประชุม 8 หัวหน้าพรรคในวันเดียวกัน คณะทำงานจะนำข้อหารือภายในของพรรคไปพูดคุย มั่นใจว่า ทั้งสองฝ่ายจะพูดคุยและสรุปกันด้วยดี ส่วนเรื่องตำแหน่งประธานสภาฯ โดยหลักพรรคที่ได้อันดับหนึ่ง ก็ควรได้รับสิทธิ์เป็นประธาน เราก็ถือสิทธิ์นั้น จึงขอว่ามาเป็นของอันดับสองได้หรือไม่ที่เราจะทำงานร่วมกัน เพื่อดุลยภาพในการทำงาน

ท่านเป็นประมุขฝ่ายบริหารแล้วเราเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ คือข้อเสนอเท่านั้น ไม่ได้เป็นการยื้อแย่ง ไม่ได้เป็นการหักหลังพี่น้องประชาชน ส่วนเขาจะให้หรือไม่ให้ เราต้องการคำตอบเป็นหลักการ ในการเจรจายึดเสียงของประชาชนเป็นตัวตั้งที่เลือกพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยกว่า 25 ล้านเสียง ถ้าพรรคก้าวไกลอันดับ1 ยืนยันไม่ให้เก้าอี้ประธานสภา พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคอันดับที่ 2 ก็ต้องกลับมาทบทวนว่า จะพิจารณาอย่างไรต่อไป แต่ยืนยันว่า อยู่บนพื้นฐานการตั้งรัฐบาลฝ่ายประชาธิปไตย

นพ.ชลน่าน กล่าวถึงการเสนอชื่อนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล เป็นแคนดิเดตประธานสภา เป็นสิทธิของพรรคก้าวไกลในการจะเสนอตำแหน่งอะไรในฐานะที่เป็นพรรคอันดับหนึ่ง ทำได้โดยชอบ เราค่อนข้างระมัดระวังในการที่จะเสนออะไรลงไป ในฐานะพรรคอันดับสอง แม้แต่เสนอขอตำแหน่งประธานสภา ไม่ใช่เฉพาะทัวร์ แต่ทุกอย่างมาลงที่พรรคเพื่อไทยหมด โดยความไม่เข้าใจ มันเป็นเพียงขั้นตอนที่เสนอไปเท่านั้น การเสนอชื่อตำแหน่งประธานสภาฯของพรรคเพื่อไทย ในภาวะการณ์ที่เรากำลังเสนอขอตำแหน่ง โดยที่เรายังไม่ได้รับคำตอบ ถ้าเอาชื่อใครคนใดคนหนึ่งไปเสนอประกบกับก้าวไกล เพื่อไทยจะถูกประณามมากกว่านี้ และจะถูกมองว่าเป็นการแข่งทันที 

“เราบอกว่า เราไม่ได้แข่ง เราขอนะครับ ขอกับแข่ง ความหมายต่างกันเยอะ เราขอให้คุณอนุญาตให้เราหรือไม่ ไม่ได้ขอตกลงนะครับ ขอไปเลยว่า คุณจะให้เราหรือเปล่า” นายแพทย์ชลน่านกล่าว 

เมื่อถามว่า หากเขายืนกรานไม่ให้ จะทำอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิ์ของเขา เพราะเป็นพรรคอันดับหนึ่ง จะได้กลับมาพิจารณาว่า ถ้าเขาไม่ให้ เพื่อไทยเป็นพรรคอันดับสอง จะพิจารณาอย่างไร ในการร่วมทำงานกับเขา จะทำงานแบบไหน 

เมื่อถามอีกว่า คำว่า พิจารณา ในการทำงานไม่ได้แปลว่า ไม่จับมือแล้วใช่หรือไม่ นายแพทย์ชลน่าน กล่าวว่า เราถูกมัดด้วยอาณัติของประชาชน ซึ่งตนเคยพูดมาหลายครั้ง แม้เราอยากออกไปแต่ออกไปไม่ได้  แม้เราอยากออกไป เรามีสิทธิ์โดยที่จะออกไป แต่มันไม่ชอบธรรม ถูกพี่น้อง 25 ล้านเสียง มัดเรากับก้าวไกลให้ติดกัน มันเสมือนพ่อแม่ เราเป็นลูก เขาจับคลุมถุงชน ให้มาแต่งงานกัน เราไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธจริงๆ ฉะนั้นเจตจำนงของประชาชน 25 ล้านคน เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด เราคำนึงถึงตรงนี้ในการเจรจาพูดคุย และนำเสนอทุกเรื่อง เพื่อให้สมประโยชน์ตรงนี้ เมื่อก้าวไกลเขาไม่ให้ เราก็ไม่ควรจะต้องรับ

ถามว่าแนวทางการโหวตว่าจะมีการปล่อยให้ฟรีโหวตหรือไม่ นพ.ชลน่านกล่าวว่า จะต้องมีข้อตกลงที่ชัดเจนเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการฟรีโหวต และยังไม่ได้รับแจ้งว่าจะมีการเลื่อนโหวตประธานสภาจากวันที่ 4 กรกฎาคมออกไป โดยไม่เกี่ยวกับไทม์ไลน์การพูดคุยของ 8 พรรคร่วม หากได้ข้อยุติในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้ วันที่ 3 กรกฎาคมก็มีรัฐพิธีเปิดสภา วันที่ 4 กรกฎาคม เชื่อว่าจะเข้าสู่การโหวตได้ หากเลื่อนช้าไป ก็จะทำให้ยิ่งเสียประโยชน์ เชื่อมั่นว่าในวันที่ 2 กรกฎาคมนี้จะต้องจบ ในฐานะเป็นคู่เจรจาจะต้องมีวัตถุประสงค์ร่วมกันทั้งสองฝ่ายต้องทำให้ทุกอย่างได้ข้อยุติ