ชัยธวัช ชี้ ประชาชน ไม่อยากเห็นพลิกขั้วการเมือง
ชัยธวัช เชื่อ ประชาชน ไม่อยากเห็นพลิกขั้วการเมือง อยากได้ นายกฯจากพรรคได้เสียงอันดับหนึ่ง ระบุ เป็นไปได้ เพื่อไทย ก้าวไกล กลับมาจับมือเหมือนเดิม ยังไม่รับปาก สส.ก้าวไกล ยกมือโหวต แคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย หรือไม่ ขอรอสถานการณ์การเมือง ไม่รู้ พลิกไปถึงจุดไหน
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์กรณีสมาชิกพรรคก้าวไกล หลายคน อยากให้พรรคเพื่อไทยกลับมาร่วมจับมือกันเหมือนเดิมว่า เป็นสิทธิของพรรคเพื่อไทย โดยพรรคก้าวไกล ยังไม่ได้คุยกันในเรื่องนี้ พรรคเตรียมทำงาน ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหน ส่วนใหญ่ที่ออกมาแสดงความคิดเห็น เป็นความคิดเห็นส่วนตัว อยากให้พรรคเพื่อไทยจับมือกับก้าวไกลเหมือนเดิม แต่ความจริงแล้ว ยังไม่มีการติดต่อมาจากพรรคเพื่อไทย มองว่า ทุกอย่างเป็นไปได้
เมื่อถามว่า รู้สึกอย่างไรที่เหมือนถูกผลักให้ออกมาเป็นฝ่ายค้าน นายชัยธวัช กล่าวว่า มันผ่านไปแล้ว ไม่เป็นไร ตอนนี้รู้สึกเป็นห่วง ในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย และการเลือกนายกรัฐมนตรี ยังไม่เรียบร้อย ไม่ราบรื่น โดยเฉพาะเสียงสว.ที่คิดว่าจะได้ อาจจะเป็นปัญหา ส่วนตัวเชื่อว่า ประชาชนไม่อยากเห็นการพลิกขั้ว ได้นายกรัฐมนตรีที่มาจากขั้วอำนาจเดิม แต่ที่ผ่านมาก็ยังไม่ได้คุยกันกับพรรคเพื่อไทย
ส่วนประเด็นที่พรรคก้าวไกล จะยกมือให้นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยกันในเรื่องนี้ ยังไม่รู้ว่าสถานการณ์จะพลิกไปถึงจุดไหน ใกล้วันเลือกจะต้องมีการพูดคุยกันกับสส.ในพรรคอีกครั้ง
เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ต้องมีคุณสมบัติแบบไหน ถึงจะพาประเทศก้าวข้ามทุกปัญหาในช่วงนี้ไปให้ได้ นายชัยธวัช กล่าวว่า คุณสมบัติก็เป็นเรื่องพื้นฐาน แต่ความปกติของการเมืองคือ พรรคที่ได้อันดับที่หนึ่ง ควรได้ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แค่นั้นเอง จบง่ายที่สุด ถ้าเราไปตั้งเงื่อนไขเยอะ จะทำให้เกิดความขัดแย้ง และวุ่นวาย เรื่องคุณสมบัติ เรื่องนโยบาย ประชาชนได้ตัดสินใจไปแล้ว ผ่านการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคไหนได้รับความนิยมเยอะ เท่ากับว่าประชาชนเห็นด้วยกับนโยบายของพรรคนั้น มันเป็นการหาข้อยุติที่ดีที่สุดแล้ว ผ่านการเลือกตั้ง แต่ถ้าเราไม่อิงตามนี้ มันจะทำให้การเมืองไปต่อไม่ได้ และเป็นปัญหาในอนาคตแน่นอน
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามีพรรคการเมือง ที่ไม่ได้อันดับหนึ่ง แต่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องแบบนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นในสถานการณ์การเมืองที่ปกติ เป็นช่วงประชาธิปไตยครึ่งใบ ช่วงเผด็จการยังสืบทอดอำนาจ แต่วันนี้ถึงเวลาแล้วที่จะกลับมาสู่ประชาธิปไตยที่ปกติ