posttoday

'ก้าวไกล'จัด30สส.อภิปรายนโยบายรัฐบาลครอบคลุมทุกมิติ

07 กันยายน 2566

ชัยธวัช ตุลาธน เผย ก้าวไกล จัด30สส.ชำแหละนโยบายรัฐบาลครอบคลุมทุกมิติ ชี้เนื้อหาในร่างนโยบายสะท้อนเนื้อแท้ครม.คลุมเครือเกรงอกเกรงใจและไม่ชัดเจน จะเป็นหวังให้กับประชาชนได้หรือไม่

นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะเลขาธิการพรรคฯ กล่าวว่า การอภิปรายนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ระหว่าง 11-12 กันยายน 2566 พรรคก้าวไกลจัดสส. 30 คน ทั้งหน้าเก่าและหน้าใหม่ อภิปรายนโยบายครอบคลุมทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ การเมือง สังคม และสวัสดิการ เพื่อตรวจสอบ ตั้งคำถาม และข้อสังเกตว่า นโยบายดังกล่าวจะสะท้อนเนื้อแท้ของรัฐบาล

"เนื้อหาในร่างนโยบายยังคลุมเครือ ค่อนข้างผิดหวัง และยังไม่ชัดเจนว่า จะเป็นความหวังได้หรือไม่ และจะดำเนินการให้บรรลุได้อย่างไร เพราะไม่มีการกำหนดตัวชี้วัด และระยะเวลา"นายชัยธวัช กล่าว

ส่วนนโยบายรัฐบาลจะสร้างความสมานฉันท์ตามเป้าหมายการจัดตั้งรัฐบาลสลายขั้วได้หรือไม่นายชัยธวัช ระบุว่า ยังไม่แน่ใจว่า คือการปรองดองสลายขั้ว หรือเป็นการจับขั้วกันใหม่ แต่ลักษณะทางการเมืองได้สะท้อนผ่านนโยบายที่ยังมีความคลุมเครือและเกรงอกเกรงใจจึงจะต้องรอดูในทางปฏิบัติว่าจะเป็นอย่างไร 
 

ทั้งนี้ นายชัยธวัชได้รับหนังสือจากนางสุนีย์ ไชยรส คณะทำงานขับเคลื่อนนโยบายสวัสดิการเงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า เพื่อให้พรรคก้าวไกล ติดตามนโยบายเด็กเล็กในนโยบายของรัฐบาล หลังจากก่อนหน้านี้ได้ยื่นหนังสือถึงพรรคร่วมรัฐบาลไปแล้ว ทั้งเงินสวัสดิการเด็กถ้วนหน้า ตั้แต่อยู่ในครรภ์ ถึง 6 ปี,การจัดตั้งศูนย์เด็กเล็กให้เพียงพอสำหรับผู้ปกครอง ที่มีภาระงาน โดยควรเพิ่มงบประมาณ และอัตรากำลังแก่ท้องถิ่นให้มีศักยภาพในการดูแลเด็กเล็ก ตั้งแต่ 6 เดือน ถึง 3 ขวบมากขึ้น 

นายชัยธวัช ยืนยันว่า พรรคก้าวไกลให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าว ซึ่งในร่างแถลงนโยบายรัฐบาลก็ยอมรับว่า ประเทศไทยเข้าสู่ยุคสังคมสูงวัยแล้ว จึงจะต้องหาวิธีไม่ให้คนวัยทำงาน ต้องแบกรับภาระดูแลพ่อแม่ และบุตรมากขึ้น

ดังนั้น จึงจำเป็นที่รัฐบาล จะต้องออกแบบนโยบายลดภาระการมีบุตร เพื่อกระตุ้นให้คนมีบุตรมากขึ้น สามารถรับภาระทางเศรษฐกิจได้ พรรคจึงสนับสนุนสวัสดิการถ้วนหน้ามาโดยตลอดโดยไม่ต้องคัดกรองความจน ทั้งแม่ และเด็กเล็ก และไม่ควรผลักภาระไปให้เฉพาะครอบครัว แต่รัฐบาลควรมีส่วนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยพรรคก้าวไกล จะอภิปรายในนโยบายดังกล่าวของรัฐบาล และติดตามการทำหน้าที่รัฐบาลในฐานะฝ่ายค้านเชิงรุกต่อไป

ด้าน นางสาวศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล ยอมรับว่า รู้สึกผิดหวัง ที่ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจ และหลงลืมกลุ่มเยาวชน และคุณแม่ ที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต และประเทศไทยยังมีอัตราการเกิดพลเมืองใหม่ต่ำ ซึ่งจะส่งผลต่อภาคแรงงานในอนาคตด้วย ดังนั้น การพัฒนาเศรษฐกิจ จึงจะต้องพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ และเด็กควบคู่กันไปด้วย