“หมอพรหมินทร์” แจงทุกปม โชว์ รบ.เพื่อไทยใช้ความจริงใจ+ผลงานสู้ “กระแสส้ม”

27 ธันวาคม 2566

“พรหมินทร์” แจงปม “ทักษิณ” ยันเงินหมื่น ยังเป็นไปตามแผน โชว์ รบ.เพื่อไทยใช้ความจริงใจ+ผลงานสู้กระแส “พิธา-ด้อมส้ม” ยันประเทศไทยมี “เศรษฐา” เป็นนายกฯ คนเดียว และหลัง พ.ค.67 หมดอำนาจ สว.ไม่มีเปลี่ยนตัว

ที่ทำเนียบรัฐบาล เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ให้สัมภาษณ์ถึง การสร้างความนิยมของรัฐบาลหลังทำงานมา 3 เดือนแต่ยังพบว่าผลสำรวจความนิยมคะแนนของอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ยังมาเป็นอันดับหนึ่งว่า ผลงานรัฐบาลได้พูดกับได้ทำเป็นคนละเรื่องกัน ที่ผ่านมาเราเดินหน้าเกณฑ์ทหารด้วยความสมัยใจ ปรับลดกำลังพลให้เหมาะสม ทำให้มีบทบาทเหมาะสมกับสถานการณ์โลก สมรสเท่าเทียม PM2.5 ดิจิทัลวอลเล็ต ยึดมั่นตามที่หาเสียงไว้และจะทำให้เป็นจริง เราขอโอกาสทำงานให้ประชาชนเป็นจริง 

 

เมื่อถามว่าที่บอกว่าทำกับพูดต่างกัน เชื่อว่าหากมีการสำรวจความคิดเห็นช่วง 6 เดือน คะแนนของพรรคเพื่อไทยจะกลับมานำหรือไม่ นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า ตนไม่ได้พูดอย่างนั้นเราตั้งใจทำประโยชน์ให้ประชาชนทั่วประเทศโดยไม่เลิกทำเฉพาะพื้นที่ที่เรามี สส. 

 

เมื่อถามว่าเราจะใช้อะไรมาเป็นตัวดึงกระแสให้กับรัฐบาล นายแพทย์พรหมินทร์ ตอบว่า ความจริงใจและผลงานการปฏิบัติ ตนเชื่อว่าหากเราได้ปฏิบัติและเห็นถึงความจริงใจของเราที่เป็นรัฐบาลของประชาชน 

 

เมื่อถามว่าได้ประเมินการเมืองหลังเดือน พ.ค. 67 ที่ สว.ชุดปัจจุบันหมดวาระอย่างไร เพราะมีการตั้งข้อสังเกตว่าพรรคเพื่อไทยจะมีอำนาจต่อรองทางการเมืองมากขึ้น นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า ถือเป็นการคิดแบบเก่าที่แบ่งเป็นพวกเป็นพรรค ฉายารัฐบาลที่สื่อตั้งให้ว่า “แกงส้มผลักรวม” ถือเป็นการรวมเพื่อประเทศรวมเพื่อประชาชน ต้องขอบคุณที่สื่อชมเราและเราก็ไม่ได้ไปแกงใคร 

เมื่อถามว่า 4 ปีของรัฐบาล จะเห็น หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เข้ามามีตำแหน่งในรัฐบาลหรือเข้ามานั่งในตำแหน่งนายกฯ หรือไม่ นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ นางสาวแพทองธาร เป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย รัฐบาลให้ความสำคัญโดยให้เข้ามาช่วยงานรัฐบาล แต่แน่นอนที่สุดนายกฯ คือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ไม่มีความจำเป็นใดๆที่ต้องปรับเปลี่ยน

 

เมื่อถามว่าปีหน้าจะเห็นอดีตนายกฯ นายทักษิณ ชินวัตร เข้ามาให้คำแนะนำการบริหารประเทศของรัฐบาลหรือไม่ นายแพทย์พรหมินทร์ ตอบว่า ความคิดเห็นของทุกคนที่เป็นประโยชน์ไม่ใช่แค่ของนายทักษิณ รัฐบาลรับฟังทั้งสิ้น นายเศรษฐา รับฟังตลอดโดยเฉพาะเสียงประชาชน โดยนำมาปรับใช้สั่งการแก้ปัญหาต่างๆทันที 

 

เมื่อถามย้ำว่าจะทำให้เกิดความสับสนหรือไม่ว่าจะต้องฟังเสียงนายเศรษฐา หรือนายทักษิณ นายแพทย์พรหมินทร์ ตอบว่า “นายกฯเศรษฐา เป็นคนรับฟังความคิดเห็นของใครก็ได้แล้วนำมาปรับใช้ ยืนยันว่านายกฯคือนายเศรษฐา” 

 

เมื่อถามอีกว่าปีหน้าประเทศไทยจะมีนายกฯสองคนเข้ามาบริหารประเทศ นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า “ผมไม่ได้พูดไม่ได้หมายความอย่างนั้น สื่อคนที่ถามฟังภาษาไทยออกหรือไม่หรือหูอื้อ ผมพูดชัดเจนว่ามีนายกฯคนเดียว” 

 

เมื่อถามอีกว่ายืนยันหรือไม่ว่าศูนย์กลางอำนาจอยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า อำนาจไม่เคยไปจากที่ไหนเลย อยู่ที่นายกรัฐมนตรีชื่อ เศรษฐา ทวีสิน เมื่อถามย้ำว่า เดือน พ.ค.เมื่อหมดอำนาจ สว.จะไม่มีการเปลี่ยนตัวนายกฯใช่หรือไม่ เลขาธิการนายกฯ ตอบว่าไม่มีครับ ทำไมต้องเปลี่ยนประเทศไทยได้ประโยชน์อะไรหรือ 

เมื่อถามว่าปี 2567 จะมีปัจจัยอะไรเสี่ยงต้องเปลี่ยนตัวนายกฯ หรืออะไรที่กระทบรัฐบาลทำให้อยู่ไม่ครบวาระหรือไม่ เลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญคือเรื่องเศรษฐกิจโลก ส่วนเสถียรภาพของภาครัฐถือว่าแข็งแกร่ง ถ้ามุ่งต่อประโยชน์ประชาชนถือว่าเสียงเราดัง

 

ยันเงินหมื่น ยังเป็นไปตามแผน เชื่อ ไม่แหกกฎหมาย ก็ไม่สะดุด ไม่ตอบรับผิดชอบถึงไหน ยุบสภา-ลาออก บอกอย่าพึ่งสมมุติเรื่องที่ยังไม่เกิด

 

นายแพทย์พรหมินทร์ ยังได้ให้สัมภาษณ์ถึง นโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ยังอยู่ในจุดที่มั่นใจที่ว่าจะสำเร็จในปีหน้าหรือไม่ว่า ปีหน้าโครงการดิจิทัลวอลเล็ตยังเป็นไปตามแผน เรื่องที่มีข้อสงสัยหรือถกเถียงกัน เราก็ทำให้ยุติชัดเจนไปแล้ว ขณะนี้นำไปสู่ขั้นตอนนำไปปฏิบัติให้เป็นจริง ซึ่งเราได้ถามไปยังคณะกรรมกฤษฎีกา ซึ่งเร็วๆ นี้จะได้คำตอบกลับมา แล้วเราก็จะปรับและเสนอกฎหมายที่จะต้องกู้เงินเข้าไปในสภา คงจะตามหลังร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 และเงินต่างๆ ก็คงเป็นตามแผน 

 

เมื่อถามว่า ปีหน้าเศรษฐกิจไทยยังมีความเสี่ยงเรื่องอะไร นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า ปัจจัยสำคัญคือเรื่องเศรษฐกิจโลก เสถียรภาพของภาครัฐยืนยันว่ายังแน่นเหนียว ถ้ามุ่งประโยชน์ของประชาชนเสียงเราดัง แต่ปัจจัยสำคัญคือวันนี้เศรษฐกิจของจีนไม่โตอย่างที่เคยโตมาก่อน ขณะที่ยุโรปก็ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ สหรัฐอเมริกาที่ดูเหมือนดีแต่ก็ยังทรงๆ นี่คือความเสี่ยง เราต้องช่วยตัวเองเยอะ ฉะนั้นต้องให้ความสำคัญกับมวลรวมการใช้จ่ายในประเทศ เราจึงมีเรื่องซอฟต์พาวเวอร์ คือการปรับสร้างรายได้จากศักยภาพของเรา  

 

เมื่อถามว่า แสดงว่าไม่ว่ากฤษฎีกาตอบมาอย่างไรก็จะส่งเข้าไปสภา นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า เราเชื่อว่าสิ่งที่เราถูกกฎหมาย และกฤษฎีกาคงมีข้อแนะบางประการ อย่างไรก็แล้วแต่ ก่อนจะออกโครงการนี้เราศึกษาข้อกฎหมายต่างๆ เมื่อทางไม่ได้ราบเรียบตลอด ยกตัวอย่าง เมื่อสมัยกองทุนหมู่บ้าน เราพูดถึงว่าเดี๋ยวจะหางบตรงนั้นตรงนี้ เราก็ไม่มีเงินเหมือนกัน แต่เราก็ใช้วิธีการกู้เงินนี่คือในอดีต ฉะนั้นเรามีความมุ่งหมายชัดเจน มีปัญหาก็หาวิธีแก้และยึดมั่นในประโยชน์ประชาชน 

 

เมื่อถามว่า ถ้ากฎหมายกู้เงินไม่ผ่านจะต้องรับผิดชอบทางการเมืองหรือไม่ นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า เรารับผิดชอบตามสิ่งที่เราทำให้ประชาชน ส่วนความรับผิดชอบสำคัญคือความรับผิดชอบประชาชน และเราไม่ได้พยายามทำแหกกฎหมาย เราศึกษากฎหมายจนชัดเจนแล้วเราเดินตาม ไม่น่าจะเกิดปัญหาสะดุดอะไร 

 

เมื่อถามว่า ความรับผิดชอบถึงขั้นไหน นายกฯ ยุบสภาหรือลาออก นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า อย่าพึ่งสมมุติเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น เราจะทำไม่ให้มันเกิดขึ้นเลย 

 

เมื่อถามว่า 3 เดือนที่ผ่านมามีอะไรที่ยังไม่เข้าเป้าหรือยังไม่ทันใจบ้าง นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า สิ่งที่อยากทำมีเยอะกว่านี้มาก แต่ทำแล้วอาจติดขัดข้อกฎหมาย ติดหน่วยราชการ ความเข้าใจระหว่างคนและปัญหาที่เกิดขึ้นทับถม อย่างเรื่องน้ำท่วมที่เราไม่ได้คาดคิด เรื่องสงครามอิสราเอลที่เป็นตัวอย่างชัดเจนว่า เราเข้ามาแก้ปัญหาเมื่อเกิดปัญหาก็แก้ไขอย่างเร่งด่วน 

 

นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดในรอบ 3 เดือนนี้ คือการกอบกู้เกียรติภูมิประเทศไทยในเวทีโลก ทำให้เราเปิดตลาด และสิ่งที่อ่อนด้อยในช่วงที่ผ่านมา เราสามารถฟื้นความเชื่อมั่นในสายตาต่างประเทศ น่าจะทำให้เศรษฐกิจของเราเติบโตได้  นอกจากเรื่องการกอบกู้วิกฤติต่างๆ เราก็ทำได้เร็ว เพราะเราเป็นรัฐบาลของประชาชนมีความตั้งใจ ท่านอาจจะเห็นว่าเราเป็นพรรคร่วม แต่ที่แท้เราเป็นรัฐบาลของประชาชน 

 

แจง ปม "ทักษิณ"ทำตามกรอบกฎหมาย -หลักนิติธรรมเหมือนกันทั้ง ปท. ย้ำ ไม่ 2 มาตรฐาน 

 

และได้ให้สัมภาษณ์ถึงการสร้างผลงานของรัฐบาลมาอาจจะมาสะดุด เพราะเรื่องอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นนักโทษเทวดาหรือไม่ว่า เราเชื่อว่าเราทำทุกอย่างในกรอบกฎหมาย รัฐบาลมีหน้าที่ทำประโยชน์ให้ประชาชน เรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นมีข้อวิจารณ์ต่างๆ ถ้าอยู่ในกรอบกฎหมายก็ต้องเป็นเรื่องเฉพาะ

 

เมื่อถามว่า เรื่องกระบวนการยุติธรรมที่ถูกมองว่ากำลังถูกสั่นคลอน จากกกรณีนายทักษิณ จะเป็นปัญหากับรัฐบาลหรือไม่ นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า ถ้าเราอยู่ในกรอบกฎหมาย ทุกคนมีสิทธิแบบเดียวกัน ตนว่ามันอยู่ในกรอบกฎหมายหรือไม่ ผิดกฎหมายหรือไม่ ต้องพิจารณากันตรงนั้น ในหลักสำคัญคือ หลักนิติธรรมที่เกิดขึ้นกับประเทศทั้งประเทศ และไม่ควรจะเกิด 2 มาตราฐาน ฉะนั้นอะไรที่ปฎิบัติได้กับทุกคนก็เป็นอย่างนั้น 

 

เมื่อถามว่า บทบาทของนายทักษิณ หากพ้นโทษแล้วจะมาให้คำปรึกษารัฐบาลหรือไม่ นายแพทย์พรหมินทร์ กล่าวว่า ถ้านายทักษิณยังเป็นคนสำคัญที่ยังมีความคิด ความเห็นทันโลก และความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทุกทาง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะความเห็นของนายทักษิณ แต่ความคิดเห็นทุกทางที่เป็นประโยชน์กับประเทศไทยเรารับฟังทั้งสิ้น 

Thailand Web Stat