สภาฯถกเดือด ปรับปรุงกฎหมายขบวนเสด็จ ชาดา ชี้ มีหลักฐานพวกหนุนหลัง กลุ่มป่วน

ที่อาคารรัฐสภา นายเอกนัฎ พร้อมพันธ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ อภิปรายญัตติด่วน เรื่องขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาทบทวนมาตรการอารักขาถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จว่า จากเหตุการณ์เมื่อวันที่ 4 ก.พ. มีการเผยแพร่มีการรบกวนก่อกวนขบวนเสด็จ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีสร้างความสะเทือนใจให้กับพี่น้องประชาชนคนไทย กรณีที่เกิดขึ้นไม่ควรเกิดขึ้นอีก ขอให้เจ้าหน้าที่ช่วยบังคับกฎหมายทันที เพื่อความสงบเรียบร้อย ไม่ให้สถานการณ์บานปลาย จึงเป็นอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งบังคับใช้กฎหมาย ไม่มีอะไรที่อยู่เหนือกฎหมาย การใช้สิทธิเสรีภาพมีกรอบชัดเจนว่าต้องไม่ไปละเมิดสิทธิเสรีภาพของคนอื่น ต้องไม่ทำผิดกฎหมาย

ขอเสนอให้ทบทวนระเบียบมาตรการต่างๆรวมถึงแผนการถวายการอารักขาความปลอดภัยแก่ขบวนเสด็จ หากไม่ทบทวนมาตรการเข้มงวดจะเป็นการปล่อยปละละเลย จนกระทั่งการกระทำในลักษณะแบบนี้เป็นแฟชั่น เป็นค่านิยมใหม่ที่เกิดขึ้น จึงควรต้องมีการปรับปรุง ระเบียบและแผน ในการปฎิบัติที่ยังใช้ของเดิมตั้งแต่ปี 2548 ในขณะที่สถานการณ์ความขัดแย้งและบริบททางสังคมเปลี่ยนไปเยอะ

“หากกฎหมายอัปเดตแล้วระเบียบแผนมาตรการจะต้องอัพเดทตามกฎหมายด้วย จะต้องมีความกระชับ มีความชัดเจน มีเจ้าภาพ มีขอบเขตพื้นที่ที่ชัดเจน ไม่อยากให้เกิดข้อถกเถียงในการปฏิบัติหน้าที่ว่า เหตุเกิดขึ้นแล้วเป็นของใคร เรื่องของการถวายความปลอดภัยการถวายพระเกียรติถือเป็นภารกิจสำคัญมากๆ ขอเสนอเป็นญัตติด่วน เพื่อให้สส.ได้พิจารณา ให้รัฐบาลเร่งดำเนินการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้บังคับใช้กฎหมายทบทวนระเบียบ แผน และมาตรการการถวายความปลอดภัยขบวนเสด็จให้เหมาะสม ทันสมัยมีการฝึกซ้อม และประชาสัมพันธ์กับประชาชน ถือเป็นความปลอดภัยให้สมพระเกียรติ เพื่อรักษาไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ"นายเอกนัฎกล่าว

จากนั้นได้มีสส.ฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาล ได้อภิปราย นำเสนอความคิดเห็นดังกล่าวอย่างกว้างขวาง กระทั่งมาถึงช่วงที่ นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปราย และได้นำรูป นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย และสส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ประกอบการอภิปราย โดยเป็นถ่ายภาพกับกลุ่มที่ปกป้องสถาบัน ซึ่งกลุ่มศปปส. โพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียว่า จะเชือดไก่ให้ลิงดู กลุ่มอาชีวะราชภักดี ที่ระบุในทำนองว่า ขู่จะจัดการ สายน้ำ ตามวิถีอาชีวะปะทะก่อนค่อยคุย 

นายรังสิมันต์โรม อภิปรายอีกว่า มีการปลุกปั่นให้สถานการณ์ร้ายแรงเกินกว่าความเป็นจริงมาก ทำให้คนทั้งสังคมไม่รู้สึกปลอดภัย รัฐจะสร้างมาตรการรักษาความปลอดภัยได้อย่างไร เมื่อสุดท้ายผีที่สร้างขึ้นมามันมาจากพวกท่านเอง ถ้ายังปล่อยให้สถานการณ์บานไปเรื่อยๆ ไม่มีการดึงสติแล้วคำขู่เกิดขึ้นจริงใครจะรับผิดชอบ สุดท้ายผู้ที่ใช้ความรุนแรง ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร คนจะหาว่ารัฐบาล เป็นผู้ที่อยู่เบื้องหลังคนเหล่านี้ ขออย่าให้ไปถึงจุดนั้นเลย

ทำให้นายชาดา ชี้แจงด้วยน้ำเสียงดุดันทันทีว่า มีสมาชิกท่านหนึ่งนำรูปของตนมาอภิปราย ส่อให้เกิดเจตนารมณ์ที่ไม่ดี ที่ผ่านมามีคนมาขอถ่ายภาพเป็นล้าน การไปร่วมกิจกรรมที่ดีงามไม่ถือว่าเป็นเรื่องผิด ผู้อภิปรายส่อเจตนาไม่ดีอย่างมาก สร้างความแตกแยก สร้างความเข้าใจผิดให้กับประชาชน 

“ญัตตินี้เป็นเรื่องของการอารักขาขบวนเสด็จที่ทำร้ายจิตใจประชาชน แต่กำลังเอาเรื่องนอกประเด็นผลของการกระทำเด็กหรือใครก็ตามกี่ครั้งแล้วที่ทำผิดกฎหมาย การแสดงออกด้วยหัวใจคนไทยไม่มีปัญหา แต่มันมีขบวนการที่จะล้มล้าง ที่จะบั่นทอน อย่ามาขัดแย้งกับผม อย่ามาเล่นใต้ดิน แล้วอย่ามาเรียกร้องไม่ให้คนอื่นเล่นใต้ดิน ประธานต้องบอกว่า ใครเป็นคนอนุญาต ประธานสภาหรือเจ้าหน้าที่ มีวิจารณญาณหรือไม่ เป็นกระบวนการไม่สร้างสรรค์ เข้าใจความคิดเห็นมีความแตกต่าง เข้าใจว่าความแค้นของท่านในวันที่ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่เคยสร้างความขัดแย้งกับพรรคการเมือง นักการเมืองทุกคนความคิดเห็นต่างก็ไม่เป็นอะไร แต่อย่ามาทำมือถือสากปากถือศีล"นายชาดากล่าว 

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ ที่ทำหน้าที่ประธานการประชุมชี้แจงว่า ภาพที่นำมาเสนอ ส่วนตัวไม่ได้ดู ขอให้นายรังสิมันต์ โรม อย่าตอบโต้ และให้โอกาสนายชาดา ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้เป็นตามที่มีการนำเสนอ และอยากให้การประชุมนี้เป็นการแก้ไขปัญหาและสร้างสรรค์ ไม่อยากให้ตอบโต้กันไปมา เพราะจะทำให้ขยายความขัดแย้งไปมากขึ้น พร้อมขอความร่วมมือสมาชิกอภิปรายอย่างสร้างสรรค์ ตรงประเด็น

นายรังสิมันต์ โรม ชี้แจงอีกว่า ภาพที่นำเสนอนั้น ได้มีการยื่นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอย่างถูกต้อง ขอให้นายชาดา ใจเย็นๆ การขึ้นรูปไม่ได้ปรักปรำว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง หรือข้อความที่ขึ้นในรูป ไม่ได้เป็นประโยคของนายชาดา แต่เป็นข้อความของผู้ที่ก่อความรุนแรง แล้วเขาอาจจะคิดด้วยซ้ำว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง ความเป็นจริงอาจจะไม่มีใครอยู่เบื้องหลังก็ได้ ซึ่งกรณีแบบนี้ถือเป็นตัวอย่างว่า นักการเมืองอย่างเราๆ ถูกโยงไปยังกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ตลอดเวลา ทั้งที่การกระทำอาจไม่ถึงขนาดนั้น

ต่อมามีสส.ร่วมอภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยนายชาดา

ชี้แจงอีกครั้งว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ เป็นการปะทุนำมาการอภิปรายครั้งนี้ มีเบื้องหลัง มีเงินสนับสนุนจากบางคน บางกลุ่ม ทำให้ปัญหาไม่จบสิ้น ประเทศไทยอยู่มาได้ ไม่เคยมีปัญหาเหล่านี้ เกิดจากคนกลุ่มหนึ่งพยายามข้องแวะ สร้างความเสื่อมให้สถาบัน การที่ท่านเสด็จไปไหน เพื่อประชาชน ช่วยเหลือประชาชน แต่ที่เกิดขึ้นจากความไม่หวังดี มาจากนอกประเทศหรือไม่ หรือจากคนกลุ่มหนึ่ง เราจะมาพูดว่า เด็ก หรือประชาชน เกิดจากจิตใจเขาจริงๆหรือไม่ หรือจากการยุยงเป็นขบวนการ ถ้าพูดเรื่องนี้ ต้องพูดกันยาว ถ้าเรามีจิตบริสุทธิ์ต่อประเทศ พื้นที่นั้นมี แต่ไม่ใช่ไปสร้างความปั่นป่วน สร้างความเสื่อมเสียองค์พระประมุขของประเทศ หลายเรื่องควรแก้ไข ทำไมไม่ทำ ไม่คิด อย่าเชื่อมโยงไปสู่ความเสื่อมเสียประมุขของประเทศ เพราะจะนำมาซึ่งความเสียหาย ขอให้พูดและทำด้วยความจริงใจ อย่าพูดอย่างทำอย่าง

"มีหลักฐานเอกสารว่าใครอยู่เบื้องหลัง ถ้าจะถามว่า เป็นผู้ช่วยสส.คนใดที่ส่งเงินให้ขบวนการเหล่านี้ ขอย้ำว่า ถ้าไม่ใช่ความจริงไม่พูด เพียงแต่ตอนนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐาน ขอย้ำว่า คนอย่างผมถ้าไม่ใช่เรื่องจริง ไม่พูด"นายชาดากล่าว
 

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ กล่าวว่า จะนำญัตติดังกล่าวส่งไปยังรัฐบาล กรรมาธิการฯที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาดำเนินการต่อไป หากรัฐบาล หรือกรรมาธิการฯ มีข้อมูลไม่ชัดเจน เชิญไปชี้แจงได้ ถือเป็นสิทธิ์