ทักษิณ รับเคยเขียนคำแนะนำรัฐบาล ชี้ ห่วงบ้านเมือง เศรษฐา เผยพร้อมดึงช่วยงาน
ที่จ.เชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงกระแสข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่กลับถึงประเทศไทย และออกจากโรงพยาบาลตำรวจว่า คำว่าดราม่า ก็คือเรื่องไม่จริง จบโอเคไหมครับ การเดินทางมาเชียงใหม่ครั้งนี้ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงอาการป่วยด้วยนั้น ก็ไม่เป็นอะไร ภาวะจิตใจสำคัญกว่า ถ้าภาวะจิตใจแย่ อาจจะทำให้อย่างอื่นรวนตามไปได้
"สภาพจิตใจดี มีลูกสาว มีลูกชายอยู่ใกล้ๆ มีหลานๆอีก 7 คน เป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ของคนแก่ในวัย 75 ปี ขอให้เข้าใจและเห็นใจคนแก่ในวัย 75 ปีที่จากบ้านเกิดเมืองนอนไปนาน วันนี้กลับมาแล้ว ใครไม่ชอบหน้า ขอให้ต่างคนต่างอยู่ ก่อนหน้านี้มีอาการป่วยจริง แต่กำลังใจดี ทำให้หลายอย่างดีขึ้น แต่ยังมีปัญหาการกดประสาทของกระดูกที่คอและหลัง มีอาการต่อเนื่องจากตอนที่ป่วยโควิด-19 ตอนนั้นอาการหนักมาก พักไอซียู 9 วัน และยังได้รับผลกระทบที่ปอดที่ยังคงมีจุดดำอยู่"นายทักษิณกล่าว
ขณะที่นางสาวแพทองธารกล่าวว่า นายทักษิณ ไม่ค่อยยอมรับว่าตัวเองป่วย จึงทำให้นายทักษิณ กล่าวว่า ตนรับว่าตัวเองอายุ 75 ปีแล้ว แต่ไม่อยากจะยอมรับความแก่ ที่บางทีต้องฝืนมัน เพราะไม่อยากแก่
ถามว่าช่วงสงกรานต์ นอกจากกลับมาเชียงใหม่แล้ว มีกำหนดจะไปที่ไหนอีกหรือไม่นั้น นายทักษิณกล่าวว่า ยังไม่ได้คิด แต่ห่วงบ้านเมืองหลายเรื่อง อยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ 6 เดือน ดูข่าวตลอด ดูทีวีทุกช่อง เวลามีอะไรที่กังวล จะจดไว้
ส่วนหลังจากนี้จะมีการเดินสายพบแกนนำคนเสื้อแดงพื้นที่อื่นๆ หรือไม่นั้น นายทักษิณกล่าวว่า ยังไม่คิด ตอนนี้ขอใช้เวลากับครอบครัว มีอะไรก็จะเขียนแนะนำรัฐบาลบ้าง เพื่อช่วยกันแก้ไขปัญหา เพราะเป็นห่วงบ้านเมือง คนเสื้อแดงอย่าเพิ่งน้อยใจที่ยังไม่ได้พบตน เพราะทุกอย่างต้องใช้เวลา
ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่เดินทางมาปฏิบัติภารกิจในจังหวัดเชียงใหม่ในช่วงเดียวกัน กล่าวถึงการรับประทานอาหารมื้อค่ำ ร่วมกับนายทักษิณ ที่บ้านพักนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี เมื่อค่ำวันที่15 มี.ค.ว่า ไม่ได้มีโอกาสพูดคุยปรึกษางานใดๆ กับนายทักษิณ มีเพียงการพูดคุย ถ่ายรูป และรับประทานอาหาร เห็นว่านายทักษิณ มีท่าทีที่เหนื่อย แต่ยังมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส นายทักษิณ มีอาการปวดหลังด้วย แต่ก็ดีใจที่ได้เห็นนายทักษิณ มีหน้าตาที่ยิ้มแย้ม แจ่มใส เชื่อว่า หลังจากนี้จะได้มีโอกาสพูดคุยกันมากขึ้น
ถามว่ามีแนวคิดจะขอคำปรึกษาด้านเศรษฐจากนายทักษิณหรือไม่นั้น นายเศรษฐา ยืนยันว่า มีโอกาสแน่นอน ไม่ปิดกั้น นายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ได้รับความนิยมสูงสุด หากสามารถดึงมาช่วยงานได้ ประเทศไทย จะได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ แต่ยังไม่มีแนวคิดเชิญนายทักษิณมาร่วมงานการเมือง เพราะยังไม่ทราบว่า นายทักษิณ ต้องการทำหน้าที่ใด หรือต้องการจะใช้เวลา เพื่อชดเชยกับครอบครัวก่อน เชื่อว่า นายทักษิณ สามารถช่วยเหลืองานทางการเมืองในบริบทที่นายทักษิณถนัดได้ ขออย่าเป็นกังวล เพราะรัฐบาลของตนใจกว้างเสมอสำหรับการรับฟังความเห็นทุกคน ทั้งสื่อมวลชน และอดีตนายกรัฐมนตรี
ถามว่าน้อยใจหรือไม่ที่ประชาชนรักทักษิณมากกว่า นายเศรษฐากล่าวว่า นายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีมาหลายปี ได้รับความนิยม อยู่ในแวดวงการเมืองมานานกว่าตนเอง ประชาชนจึงรักนายทักษิณมากกว่าแน่นอน แต่ตนมีหน้าที่ที่ต่างกันไป เพราะตนเป็นนายกรัฐมนตรี พยายามแก้ไขปัญหาบ้านเมืองต่อไปจึงไม่รู้สึกใดๆ