
พ.ร.บ.งบประมาณ2567 ผ่านฉลุย สส.ลงมติ 298 ต่อ 166 เศรษฐา รับปากใช้อย่างคุ้มค่า
วันที่22มี.ค. ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2567 วาระ 2-3 ซึ่งเป็นวันสุดท้าย หลังจากสมาชิก อภิปรายรายมาตราจบลง เข้าสู่การโหวตทั้งฉบับ ผลปรากฎว่า ที่ประชุมสส. มีมติเสียงข้างมาก 298 เสียงต่อ 166 เสียง งดออกเสียง 1 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 1 เสียง
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ขอบคุณสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้ร่วมกันพิจารณา และให้ความเห็นร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการพัฒนาต่าง ๆ เพื่อให้ประชาชนมีความสุข สร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ ขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกมิติ
รัฐบาลจะใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าตามวัตถุประสงค์ จะกำกับดูแลให้มีความโปร่งใส และบรรลุผลสัมฤทธิ์ เพื่อยกระดับการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิตประชาชน ควบคู่กับการรักษาสภาพแวดล้อม ให้ประเทศก้าวไปข้างหน้า และประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดี
สำหรับข้อคิดเห็น คำแนะนำ และข้อสังเกต รัฐบาลจะขอรับไว้ด้วยความขอบคุณ และจะนำไปปรับปรุงการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณ เพื่อให้การใช้งบประมาณเกิดความคุ้มค่าต่อประชาชนมากที่สุด เพื่อให้การจัดสรรทรัพยากร มีความคุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด
นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า ภาพรวมการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2567 ในวาระที่ 2 ภายหลังกรรมาธิการฯ พิจารณาแล้วเสร็จนั้น แม้จะมี แม้จะมีกรรมาธิการฯ เสียงข้างน้อย และ สส.บางส่วน สงวนคำแปรญัตติ เสนอให้มีการตัดลดงบประมาณของแต่ละกระทรวง และหน่วยงานเพิ่มเติม แต่สุดท้ายที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ก็เห็นชอบตามการปรับแก้ของกรรมาธิการฯ เสียงข้างมากทั้งหมด เว้นเพียงงบกลางที่กรรมาธิการฯ ปรับเพิ่มจากการตัดลดจากหน่วยงานอื่น ๆ มารวมไว้ที่งบกลางฯ ตามข้อจำกัดในรัฐธรรมนูญ มาตรา 144 จึงทำให้งบกลาง เพิ่มขึ้นจาก 606,765 ล้านบาท เป็น 614,943 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 8,100 ล้านบาท
โดยขั้นตอนภายหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ลงมติให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบประมาณ 2567 ในวาระที่ 3 เสร็จสิ้นแล้ว ก็จะส่งต่อให้วุฒิสภาให้ความเห็นชอบ ในวันอังคารที่ 26 มีนาคมนี้ ก่อนที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี จะนำร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ขึ้นทูลเกล้าฯ ในวันที่ 3 เมษายน เพื่อประกาศใช้ตามขั้นตอนต่อไป