วันนอร์ ชี้ ไม่มีเหตุต้องเปลี่ยน ประธานสภาฯ ย้ำ หากทำหน้าที่ไม่ได้ จะไปเอง
ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะประธานรัฐสภา กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าวการเปลี่ยนตัวประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรองรับการปรับคณะรัฐมนตรีว่า ยังไม่มีสัญญาณใดๆ การปรับคณะรัฐมนตรี กับตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นคนละเรื่องกัน ไม่เกี่ยวกัน การปรับคณะรัฐมนตรี เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรี แต่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้น เป็นเรื่องของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะต้องมีการเลือกกันในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร และต้องนำขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งตามขั้นตอน และวาระการดำรงตำแหน่งของประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานฯ นั้น เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในข้อ 5 และ 6 ซึ่งชัดเจนอยู่แล้ว
ส่วนตัว ไม่ได้ติดยึดกับตำแหน่งใดๆ หากได้ทำเพื่อประโยชน์ของประชาชน ก็ต้องทำเต็มที่ หากทำไม่ได้ ก็พร้อมที่จะไป ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นตำแหน่งอันทรงเกียรติ ที่เป็น 3 เสาหลักของประชาธิปไตย ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ซึ่งประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องมีความเป็นกลาง ไม่สามารถให้มีอำนาจใดเข้ามาแทรกแซงได้ ยืนยันว่า การปรับคณะรัฐมนตรี เป็นเรื่องของนายกรัฐมนตรี แต่ตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรนั้นเป็นไปตามข้อบังคับ และรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ ซึ่งควรรักษาเกียรติ และระบอบประชาธิปไตยที่เป็นเสาหลักอันนี้ไว้อย่างมั่นคง
นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กล่าวว่า ข้อบังคับ ประเพณีปฏิบัติที่ผ่านมา ไม่เคยมีการเปลี่ยนกลางคัน สมัยที่เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร ครั้งแรก 1 ปี หัวหน้าพรรคความหวังใหม่ในอดีตลาออก มีการเปลี่ยนรัฐบาล เปลี่ยนนายกรัฐมนตรี แต่ประธานสภาฯ และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง สามารถทำงานกับฝ่ายบริหารชุดใหม่ได้ ไม่มีปัญหา เพราะตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร มีความเป็นกลาง ไม่ใช่เครื่องมือของพรรคการเมืองใด
ถามว่ามีการส่งสัญญาใดๆ จากรัฐบาลมาแล้วหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ ยืนยันว่า ยังไม่มี แม้จะส่งสัญญาณมา ก็เป็นสัญญาณที่รับไม่ได้ เพราะตอนนี้ ไม่มีเหตุใดๆ ที่จะต้องออกจากตำแหน่ง หากตนเองปฏิบัติหน้าที่ไม่ได้ จะเป็นฝ่ายไปเอง ยึดถือประโยชน์ของประชาชน ประโยชน์ของสภา และศักดิ์ศรีของประชาธิปไตย ที่จะต้องเป็นไปตามแนวทาง ไม่สามารถบิดเบี้ยวเพื่ออย่างใดอย่างหนึ่งได้