กางอำนาจอัยการสูงสุด "ทักษิณ" ลุ้นฟังคำสั่งคดีม.112
กางป.วิอาญา เจาะอำนาจอัยการสูงสุดสั่งฟ้องคดีทักษิณในความผิดตามมาตรา112 หากมีคำสั่งไม่ฟ้องถือเป็นที่สุด แต่หากมีคำสั่งฟ้อง ทักษิณ ตกอยู่ในสถานะจำเลยต้องถูกคุมตัวไปฟ้องต่อศาลทันทีตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 29 พ.ค. เวลา 09.00 น. อัยการสูงสุด นัดฟังคำสั่งคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีเคยถูกอดีตอัยการสูงสุด สั่งฟ้องในความผิดข้อหามาตรา 112 เมื่อปี 2558 กรณีให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนที่ประเทศเกาหลีใต้
ตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้งกระแสข่าว อัยการสูงสุดเลื่อนการสั่งคดีออกไปอีกหนึ่งนัด รวมถึงกระแสข่าว ที่มีทั้งอัยการสูงสุดสั่งฟ้องทักษิณ และข่าวอัยการสูงสุดสั่งไม่ฟ้อง
ทั้งนี้ หลักการฟ้องคดีของอัยการสูงสุด ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มีหลักปฎิบัติตามอำนาจหน้าที่ดังนี้
-หากคดีนั้นเป็นคำสั่งไม่ฟ้องของอัยการสูงสุด ถือว่าคำสั่งนั้นเป็นที่สุด
แต่กรณีอัยการสูงสุดเห็นควรสั่งฟ้องคดี ก็ให้ให้ออกคำสั่งฟ้องและฟ้องผู้ต้องหาต่อศาล ดังนี้
-อัยการส่งตัวจำเลยไปศาล
-ศาลส่งสำเนาฟ้องให้จำเลย
-อ่านอธิบายฟ้องให้จำเลยฟัง
-ถามจำเลยว่าได้กระทำผิดจริงหรือไม่ จะให้การต่อสู้อย่างไรบ้าง
-คำให้การของจำเลยให้จดไว้
-ถ้าจำเลยไม่ยอมให้การก็ให้ศาลจด รายงานไว้ และดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ในทางปฏิบัติศาลไม่เคยไต่สวนมูลฟ้องในคดีอาญาที่พนักงานเป็นโจทก์ เพราะถือว่าได้ผ่านการกลั่นกรองมาแล้วจึงเป็นที่เชื่อได้ว่าคดีมีมูลเพียงพอที่จะพิจารณาคดีได้
นอกจากนี้ ในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ฟ้องคดี ต้องให้จำเลยมาหรือคุมตัวไปศาลด้วย เพราะการไต่สวนต้องทำต่อหน้าจำเลย ในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ ศาลต้องอ่านและอธิบายฟ้องให้จำเลย แม้ศาลยังไม่ได้ประทับฟ้องไว้พิจารณาจำเลยก็ตกอยู่ในฐานะจำเลยแล้ว
ด้าน นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความนายทักษิณ ในคดี 112 กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการแจ้งข่าวว่า อัยการสูงสุดจะมีความเห็นอย่างไรต่อคดีนี้ แต่คาดว่าก่อนถึงวันนัดหมาย น่าจะพอทราบ เพื่อจะได้มีเวลาเตรียมตัว
ทั้งนี้ คาดว่าภายในเย็นวันที่ 27 พ.ค.67 น่าจะมีความชัดเจนว่าอัยการสูงสุดสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องนายทักษิณ หรือจะเลื่อนการสั่งคดีออกไป.