posttoday

ศาลฎีกาคดีเลือกตั้ง ไม่รับคำฟ้อง ขอเพิกถอนรับรองผลเลือกสว.

18 กรกฎาคม 2567

ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งไม่รับคำฟ้องขอเพิกถอนการรับรองผลเลือกสว.67เพราะเป็นกระบวนการฟ้องซ้ำ โจทก์ไม่อำนาจฟ้องได้โดยตรง กม.เปิดช่องเฉพาะกกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญขอเพิกถอนการเลือกสว.หากเห็นว่าไม่สุจริตเที่ยงธรรม

เมื่อวันที่ 18 ก.ค.67 ศาลฎีกาเเผนกคดีเลือกตั้ง มีคำสั่งไม่รับคำฟ้องคดีพล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผช.ผบ.ตร.กับพวกรวม3คนอดีตผู้สมัครสว.ขอให้เพิกถอนประกาศรับรองผลเลือกสว.200คนและขอให้เปิดหีบบัตรนับคะแนนใหม่ เนื่องจากเห็นว่าคำฟ้องไม่เข้ากรณีที่จะใช้สิทธิยื่นคำร้องคัดค้านตาม พรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภาฯได้ 

ศาลฎีกาฯ พิจารณาแล้วเห็นว่า พล.ต.ท.คำรบกับพวกไม่มีอำนาจเสนอคดีต่อศาลฎีกาฯได้โดยตรงและการยกข้ออ้างเช่นเดียวกับคำฟ้องในคดีเดิมซึ่งได้มีคำสั่งไปแล้ว จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ ต้องห้ามตามป.วิ.แพ่งมาตรา 144 ประกอบระเบียบของที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาฯ ว่าด้วยการพิจารณาคดีเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 ข้อ 5 วรรรคสอง 

พล.ต.ท.คำรบ โจทก์ที่1จึงไม่มีอำนาจฟ้อง ส่วนคำฟ้องของโจทก์ที่ 2 และ3แม้จะไม่ถือว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำ แต่เมื่อปรากฏว่ากกต.ผลการเลือกสว.เมื่อ10 ก.ค.2567หากมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่ามีกระทำการอันเป็นการทุจริตย่อมเป็นอำนาจของกกต.ที่จะยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาฯ เพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งหรือสิทธิเลือกตั้งให้ผู้นั้นสิ้นลง 

หรือหากความปรากฏต่อกกต.ว่าสว.ผู้ใดขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามก็เป็นอำนาจของกกต.ส่งรื่องใปยังศาลรัฐธฐรรมนูเพื่อวินิจฉัยตามพ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 62,63แต่ไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายใดให้ผู้สมัครหรือผู้ใดมีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาได้โดยตรง

โจทก์ที่ 2,3 ยื่นคำร้องขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาและคำร้องขอไต่ส่วนลูกเฉินตามคำร้องเมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยเสร็จสิ้นมาดังกล่าวแล้ว จึงไม่ต้องสั่งคำร้องอีกจึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง