posttoday

อัยการไขข้อข้องใจ รัฐบาล ใช้งบข้ามปี แจกเงินดิจิทัล 1หมื่นได้ ไม่ผิดกฎหมาย

25 กรกฎาคม 2567

อัยการธนกฤต แจง แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท รัฐบาล ใช้เงินไม่ทัน สิ้นปีงบ67 ใช้เงินข้ามปีได้ ไม่ผิดกฎหมาย ระบุ พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ มาตรา43 ระเบียบคลัง ส่งเงินเข้าคลัง เข้าเกณฑ์ ก่อหนี้ผูกพันก่อนสิ้นปีงบ เกิดนิติกรรม2ฝ่ายเป็นไปตามสัญญา มีการเสนอ สนอง ครบถ้วน ทำได้

นายธนกฤต วรธนัชชากุล อัยการผู้เชี่ยวชาญได้โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวให้ความเห็น เกี่ยวกับ เงินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ปีงบประมาณ 2567 ถ้าใช้ไม่ทัน ขอกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี ได้หรือไม่ว่า ตามปกติแล้วการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายของปีงบประมาณใดจะต้องใช้จ่ายให้เสร็จสิ้นภายในปีงบประมาณนั้นตามพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. 2561 มาตรา 43 หากหน่วยงานรัฐใด ไม่สามารถใช้จ่ายเงินงบประมาณให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีงบประมาณ ก็ต้องขอกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณฯ มาตรา 43 และระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกเงินจากคลัง การรับเงิน การจ่ายเงิน การเก็บรักษาเงิน และการนำเงินส่งคลัง พ.ศ. 2562 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ 105 และ 106 โดยหลักเกณฑ์สำคัญในการขอกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีนั้น จะต้องมีการก่อหนี้ผูกพันไว้ก่อนสิ้นปีงบประมาณ

สำหรับงบประมาณของโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ไม่เคยมีการดำเนินโครงการในลักษณะนี้มาก่อน ทำให้มีข้อถกเถียงและข้อห่วงกังวลว่า งบประมาณปี 2567 สำหรับการดำเนินโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่จะได้รับจากการพิจารณาให้ความเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 หากไม่สามารถใช้จ่ายเงินให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีงบประมาณ 2567 หรือภายในวันที่ 30 กันยายน 2567 จะสามารถขอกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปี หรือเรียกให้เข้าใจได้ง่ายว่าใช้เงินข้ามปี ได้หรือไม่ 
 

โดยมีประเด็นสำคัญระบุว่า การแจกเงินในโครงการดิจิทัลวอลเล็ตเป็นการก่อหนี้ผูกพันซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญในการขอกันเงินไว้เบิกเหลื่อมปีตามกฎหมายและระเบียบดังกล่าวข้างต้นหรือไม่

ในเรื่องนี้ หากพิจารณาจากการที่รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังประกาศเปิดให้ประชาชนที่สนใจและมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขที่กำหนด ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม ถึง 15 กันยายน 2567 ประกาศของรัฐบาลโดยกระทรวงการคลังดังกล่าวถือเป็นคำเชื้อเชิญให้ประชาชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1825/2522 และ 2802/2523

เมื่อประชาชนที่สนใจได้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการก็ถือว่าเป็นการทำ คำเสนอ แล้ว ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และเมื่อกระทรวงการคลังได้ทำการตรวจสอบสิทธิของประชาชนที่ลงทะเบียนในเรื่องคุณสมบัติตามเงื่อนไขของโครงการ เช่น อายุ รายได้ และเงินฝาก เป็นต้น แล้วเห็นว่ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขที่ประกาศกำหนด แล้วแจ้งตอบกลับการได้รับอนุมัติสิทธิไปยังประชาชนที่ลงทะเบียนว่าเป็นผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการ ก็ถือว่ากระทรวงการคลังได้ทำ คำสนอง ไปยังประชาชนผู้ทำคำเสนอตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์แล้ว
 

เมื่อคำเสนอและคำสนองอันเกิดจากการแสดงเจตนาของประชาชนที่ลงทะเบียนและกระทรวงการคลังที่แจ้งตอบการได้รับอนุมัติสิทธิถูกต้องตรงกัน จึงทำให้เกิดนิติกรรม 2 ฝ่าย ซึ่งก่อให้เกิดผลต่อทุกฝ่าย และเป็นสัญญาเกิดขึ้นตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และตามแนวคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2419/2534 และ 707/2535 มีผลผูกพันให้รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังมีหน้าที่ที่จะต้องปฏิบัติตามสัญญาที่เกิดขึ้นในการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านโครงการดิจิทัลวอลเล็ตที่ได้ประกาศไว้ แก่ประชาชนที่ลงทะเบียนและมีคุณสมบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขที่กำหนด

และเมื่อมีผลผูกพันตามสัญญาดังกล่าวแล้ว จึงทำให้เกิดเป็นหนี้ผูกพันขึ้นแก่กระทรวงการคลังให้มีหน้าที่ต้องใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ตไปสู่ประชาชนผู้มีสิทธิ ซึ่งกระทรวงการคลังย่อมสามารถขอกันเงินงบประมาณโครงการดิจิทัลวอลเล็ตสำหรับปีงบประมาณ 2567 ไว้เบิกเหลื่อมปีได้ตาม พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณฯ มาตรา 43 และระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการเบิกเงินจากคลังฯ ข้อ 105 และ 106 ดังกล่าว หากไม่สามารถใช้จ่ายเงินให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นปีงบประมาณ 2567

นอกจากนี้ เมื่อวันที่24ก.ค. หลังการแถลงข่าว โครงการดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ได้ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงความกังวล การใช้งบกลางปี ที่จะสิ้นสุดก.ย.67 จะโยกไปใช้ปลายปีได้อย่างไรว่า กลไกทางงบประมาณสามารถดำเนินการได้ เป็นเรื่องปกติหากมีความจำเป็นต้องกันข้ามปีงบประมาณ สามารถทำได้ เมื่อมีการเสนอและสนองที่ครบถ้วน การเสนอคือ ประชาชนกดขอรับสิทธิ์ การสนอง คือ รัฐยืนยันว่า ท่านมีสิทธิ์ครบถ้วน จะเป็นการผูกพันธ์งบประมาณที่ต้องล็อกไว้ให้กับประชาชน เพราะผูกพันธ์สัญญากันแล้ว