มือบึ้มรับเอี่ยวระเบิด3จุด
อัศวิน รุดรายงาน สุเทพ จับคนร้ายเตรียมบึ้มม็อบ เกี่ยวข้องระเบิด บิ๊กซีราชประสงค์-ซ.รางน้ำ-สมุทรสาคร ด้านผู้ต้องหารับสารภาพทำเองคนเดียวเพราะอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
อัศวิน รุดรายงาน สุเทพ จับคนร้ายเตรียมบึ้มม็อบ เกี่ยวข้องระเบิด บิ๊กซีราชประสงค์-ซ.รางน้ำ-สมุทรสาคร ด้านผู้ต้องหารับสารภาพทำเองคนเดียวเพราะอยากให้เกิดการเปลี่ยนแปลง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง กล่าวว่า เช้าวันนี้ (25ม.ค.) ได้เชิญ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ที่ปรึกษา สบ 10 และ พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เข้ารายงานรายละเอียดการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมอาวุธเตรียมก่อเหตุป่วนการชุมนุมค่ำวานนี้ โดยเห็นว่า การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ ได้กำชับให้ดูแลป้องกันสถานการณ์ และมือที่สาม เพื่อไม่ให้เกิดการซ้ำรอยเหมือนการชุมนุมที่ผ่านมา และยังเห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในขณะนี้ เพราะเจ้าหน้าที่ยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ ทั้งนี้ ยังขอความร่วมมือประชาชนให้เป็นหูเป็นตา หากพบผู้ต้องสงสัยขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่
อย่างไรก็ตาม นายสุเทพยังตั้งคำถามไปยังกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่ยื่นข้อเสนอ 3 ข้อให้รัฐบาล ทั้งที่รู้ว่าไม่สามารถทำได้ ว่ามีเหตุผลอะไร
มือระเบิดสารภาพเป็นเสื้อแดงหวังก่อเหตุให้เกิดความเปลี่ยนแปลง
ด้าน พล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า นาย ธวัชชัย เอี่ยมนาค ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเคยก่อเหตุที่บิ๊กซี ราชประสงค์ จ.สมุทรสาคร และซอยรางน้ำ ซึ่งจะมีการสอบสวนเพื่อหาคนบงการต่อไป ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบกลุ่ม และติดตามมาตั้งแต่ก่อนช่วงเทศกาลปีใหม่ จึงสามารถจับกุมผู้ต้องหารายนี้ได้ ทั้งนี้ขอปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นการจัดฉากของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทั้งนี้ นายธวัชชัย ระบุว่า ได้ระเบิดทั้งหมดมาจากนายพล (ไม่ทราบชื่อ-นามสกุล) ที่มีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกันเมื่อราว 4 เดือนก่อนในการชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง โดยนายพลแจ้งว่านำมาฝากไว้ ตนทราบว่ากลุ่มพันธมิตรฯจะมีการชุมนุม จึงนำระเบิดใน 2 ชนิดข้างต้นเตรียมมาก่อเหตุ โดยไม่มีใครจ้างวานแต่อย่างใด แต่ที่ทำไปเพียงเพราะต้องการให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง เพราะที่ผ่านมาเคยเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง เรียกร้องประชาธิปไตยแล้วก็ไม่เป็นผล จึงต้องใช้ความรุนแรงเข้าเปลี่ยนแปลง
“หลังจากที่ได้ระเบิดและอาวุธปืนชนิดต่างๆ มา ผมได้นำไปฝากไว้กับนายดร มาตา ผู้ต้องหาอีกรายที่มีอาชีพขับวินมอเตอร์ไซค์เหมือนกัน โดยผู้ต้องหาอีก 4 รายไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเตรียมการก่อเหตุแต่อย่างใด” นายธวัชชัยกล่าว
ด้านนายดร มาตา ผู้ต้องหาอีกราย กล่าวว่า อาวุธปืน และระเบิดชนิดดังกล่าว นายดำมาฝากตนไว้ ด้วยความไว้ใจและมีอุดมการณ์ทางการเมืองเหมือนกัน ตนจึงยินดีรับฝาก แต่เมื่อนานวันเข้าก็เกรงว่าเจ้าหน้าที่จะมาตรวจพบเจอ จึงคิดจะเอาไปทำลาย แต่ผู้ต้องหาอีก 3 รายที่เหลือมาขอดูระเบิดและปืนชนิดต่างๆ ก่อน ตนจึงพามาดู และถูกตำรวจจับกุมในที่สุด ทั้งนี้ ตนไม่มีความคิดจะนำอาวุธไปก่อเหตุอย่างแน่นอน เพราะไม่มีความรู้ในเรื่องอาวุธและระเบิดแต่อย่างใด
ตร.ระบุระเบิดต่อวงจรพร้อมทำงานมีรัศมีทำลาย 10-30เมตร
ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.กำธร อุ่ยเจริญ รองผกก.กลุ่มงานตรวจพิสูจน์และเก็บกู้วัตถุระเบิด บช.น. กล่าวว่า ในส่วนของระเบิดที่ใช้ก่อเหตุนั้น จากการตรวจสอบพบว่าผู้ต้องหาได้ต่อวงจรที่พร้อมจะทำงานทันที ความรุนแรงในการทำลายล้างจะอยู่ในระยะ 10-30 เมตร และผู้ต้องหาต้องมีความรู้ด้านอิเล็กทรอนิกส์อยู่บ้างจึงสามารถประกอบได้
พบโยงระเบิดป่วนกรุงหลายพื้นที่
ในเบื้องต้นจากการจับกุมครั้งนี้ สอดคล้องกับเหตุการณ์ระเบิดในหลายพื้นที่ในกทม. คือที่หน้าบริษัททีโอที ท้องที่สน.นางเลิ้ง เมื่อวันที่ 3 เม.ย.53 แต่เจ้าหน้าที่สามารถเก็บกู้ไว้ได้ก่อน และเหตุระเบิดที่ห้างบิ๊กซี ราชดำริ เมื่อวันที่ 25 ก.ค.53 และที่พบในรถยนต์ฮอนด้า รุ่นซีวิค ในท้องที่สน.โคกคราม แต่ไม่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ระเบิดที่สมานเมตตาแมนชั่น
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในส่วนของนายธวัชชัย หรือดำ เอี่ยมนาคนั้น จบการศึกษาในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และที่ผ่านมาก่อนที่จะมาขับจักรยานยนต์รับจ้างนั้น เคยประกอบอาชีพเป็นช่างซ่อมโทรศัพท์มือถือมาก่อน จึงมีความรู้ในด้านอิเล็กทรอนิกส์อยู่พอสมควร ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือเจ้าหน้าที่จะทำการขยายผลเพื่อจับกุมต่อไป
ลูกระเบิดเอ็ม79ที่เจ้าหน้าที่ยึดได้
นายธวัชชัย ผู้ต้องหานำระเบิดไปวางข้างทำเนียบฯ
เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม79
จรวดอาร์พีจีที่ยึดได้จากบ้านพักของกลุ่มผู้ต้องหา