พิธา หวังผลสะเทือน ยุบก้าวไกล ชนะศึกเลือกตั้ง 270 เสียง โว เล่นเกมยาว รอได้
พิธา หวังผลสะเทือน ยุบก้าวไกล ปลุกพลังชนะเลือกตั้ง ทะลุ 270 เสียง ย้ำ เน้นชนะ กว้างขึ้น ลึกขึ้น โว ก้าวไกลเล่นเกมยาว หวังชนะ รอได้ ระบุแม้โดนยุบ ไม่ขนคนต่างจังหวัดมาชน เปิดทางรัฐประหารแน่ แจง เดินทางไปพบทูต 18 ประเทศ แค่แลกเปลี่ยน ไม่ได้ชักศึกเข้าบ้าน
นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ในรายการคมชัดลึก ทางสถานีเนชั่นทีวี ‘7 สิงหา ชี้ชะตา พิธา-ก้าวไกล’ว่า การไปพบทูต 18 ประเทศ ที่สถานทูตเยอรมัน เมื่อวันศุกร์ที่ 2 ส.ค.ไม่ได้เป็นการชักศึกเข้าบ้าน เป็นการแลกเปลี่ยนกันตามปกติ ไม่มีใครมากดดัน บอกถึงจุดยืนพรรคก้าวไกล อยากให้เกิดความสมดุล ประชาชน กับ สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นการแสดงความจงรักภักดีของพรรคก้าวไกล ไม่อยากเห็นการนำสถาบันมาทำลายล้างการเมือง คิดว่าต่างชาติเฝ้าดูสถานการณ์อยู่ แต่ไม่ได้มากดดันอะไร
เช้าวันที่ 5ส.ค. เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาล เพจไทยคู่ฟ้า ขึ้นบนเว็บไซต์ว่า ถ้าศาลไม่ยุบพรรคก้าวไกล แสดงว่า ศาลจะถูกกดดันได้จากต่างประเทศ แต่ต่อมาได้นำลงไปแล้ว ถ้าคนไม่เข้าใจ อาจจะเข้าใจว่า รัฐบาลเห็นด้วยต่อการยุบพรรคการเมือง ขอยืนยันว่า ยังมีความเป็นไทย ไม่ได้ชักศึกเข้าบ้าน ไม่ได้เป็นผลผลิตจาก CIA สหรัฐอเมริกา
ถามว่า เหตุใดคนส่วนใหญ่เชื่อ พรรคก้าวไกลจะถูกยุบพรรค นายพิธากล่าวว่า จากความอปกติ ถูกทำให้เป็น ความปกติ ไปแล้ว 15ปีที่ผ่านมามีการยุบพรรค แต่มีเพียงพรรคเดียว ไม่โดนยุบพรรค แต่มีถึง 33 พรรคถูกยุบพรรค คิดว่า พรรคก้าวไกลมีสิทธิ์ คิดว่าประวัติศาสตร์อาจจะไม่ซ้ำรอย
พรรคก้าวไกลอาจโดนสาดโคลน ยังอธิบายไม่มากพอ โดนข้อกล่าวหาเซาะกร่อน บ่อนทำลาย ชักศึกเข้าบ้าน แต่ถ้ามีเวลาในการอธิบาย เชื่อว่า คนจะเข้าใจ พรรคก้าวไกลอาจไม่สมบูรณ์แบบ แต่อย่างน้อย ถือว่าเป็นความหลากหลายทางประชาธิปไตย ไม่ควรถูกกำจัด เพื่อมุ่งไปในการรักษาประเทศ หากใครได้คุยกับพรรคก้าวไกลมากขึ้น จะเข้าใจมากขึ้น ความวิตกจริตจะหายไป แต่จะเกิดความเชื่อใจ เชื่อมั่นแทน
ถามว่า นักวิเคราะห์มองว่า อาจไม่ใช่ต้องการยุบพรรคก้าวไกล แต่ต้องการกำจัดพิธา นายพิธากล่าวว่า การจะจับหนูตัวเดียว จะเผาทั้งนา เผาแบงค์พันเพื่อหาเหรียญบาทหรือ ตนอยากทำงานการเมืองเพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศ มีความฝันทำงานการเมืองนานาชาติ เป็นอาจารย์ ระบบการเมือง มีฝ่ายค้านคอยตรวจสอบ อย่าไปคิดว่า จะเอาบุคคลนั้นบุคคลนี้ แล้วเอาระบบไปแลก แต่ต้องทำให้คนอยู่ในระบบแบบนั้น ทำให้มีการตรวจสอบได้ ให้ประชาชนลงโทษได้ทุกเมื่อ
พรรคก้าวไกล ห่างไกลความสมบูรณ์แบบ แต่ที่ภูมิใจคือ เมื่อผิด ยอมรับ ขอโทษ และปรับปรุงตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการคัดคน นโยบาย กระบวนการทำงาน ถ้าผิดก็คือผิด แต่อยู่ที่ว่า ได้ยอมรับแก้ไขหรือไม่ ความกังวล จะจับหนูตัวเดียว เผาทั้งนา ไม่ควรมี
ที่ถามว่า พรรคก้าวไกล รุ่นถัดไป จะเหมือนยุคก่อนหน้านี้หรือไม่ มั่นใจว่า เราพัฒนาพรรคเป็นสถาบันการเมือง เป็นแบบของเรา ไม่ยึดโยงบุคคล เราจะชนะเกมยาวได้ ต้องมีทั้งบุคลากร และ ยุทธศาสตร์ เราเป็นผู้นำที่จะสร้างผู้นำ ไม่ใช่สร้างผู้นำ แล้วทำให้คนอื่นทำตาม แม้กำจัดพิธาไปได้ เผลอๆอาจจะทำให้เข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ อาจจะมีคนเก่ง คิดเหมือนเรา เพื่อทำให้มีคนเก่งมาอยู่ในพรรคได้ตลอดเวลา เพื่อให้มีอิสรภาพทางการทำงาน ไม่ใช่ปล่อยให้นายทุนบอก อย่างนี้ให้โหวตได้ ไม่ได้
ถามว่า สาเหตุการถูกยุบพรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า บอกว่า เหตุที่ทำให้ถูกยุบ เพราะโหวตสวนพรบ.กำลังพล ทำให้ พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ แล้วพรรคก้าวไกล จะเจอความเสี่ยงอะไร นายพิธากล่าวว่า คงไม่เกี่ยวกับเรื่องสถาบัน เราเน้นเรื่องกระจายอำนาจ ปฏิรูปกองทัพ ทำให้ทหารเป็นทหารมืออาชีพ ทลายทุนผูกขาด เคยคุยกับนายทหาร เจ้าสัว ข้าราชการ จากสิ่งที่เขาเคยวิตกจริต ก็หายไป
จาก 3 สิ่งที่พูด อาจทำให้ก้าวไกล ชนะเลือกตั้ง แต่เป็นเหมือนดาบสองคม ทำให้ตนไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ทำให้พรรคก้าวไกลอยู่ในความเสี่ยง ถ้าเอาประเทศเป็นตัวตั้งอันดับแรก เราต้องการระบบเศรษฐกิจทำงานให้ทุกคน มากกว่าบางกลุ่มหรือไม่ ต้องการทหารมืออาชีพ ทำให้กองทัพกระชับขึ้น นำงบประมาณไปพัฒนาอาวุธ เพื่อสู้กับภัยทางออนไลน์ ใช่หรือไม่
เราไม่ใช่ Zero Sum Game ที่มีบางคนได้ บางคนเสีย สุดท้ายมีผู้ชนะคนเดียว เรารู้อยู่แล้วเศรษฐกิจแบบ 20 ปี ที่ผ่านมา ไปต่อไม่ได้ แต่สิ่งที่ทำต่างชาติกังวล มาจาก เสถียรภาพการเมือง ดังนั้นต้องทำให้ชาติมีเสถียรภาพ ไม่ใช่ จับหนูตัวเดียว เผาทั้งนา
ผู้ดำเนินรายการถามว่า ตอนยุบอนาคตใหม่ เกิดม็อบเยาวชน ลุกลามบานปลาย ทำให้เกิดความขัดแย้ง หากยุบก้าวไกล ภาพจะเป็นอย่างนั้นหรือไม่ นายพิธากล่าว่า ปรารถนา จะถอนฟืนออกจากกองไฟ ไม่อยากเห็นสถานการณ์ลุกลามบานปลาย แม้ประชาชนมีสิทธิเรียกร้องตามสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ
"แต่จะไม่มีวันเป็นส่วนในการขนคน จากต่างจังหวัด ให้คนมาชนคน ให้มีข้ออ้างในการทำรัฐประหาร แต่ขอชนะอย่างถูกวิธีอย่างยั่งยืน ผ่านระบบรัฐสภาฯ อยากเห็นการชนะอย่างกว้างขึ้นและลึกขึ้น ชนะกว้างขึ้นคือ 151 เสียงไม่พอใช่หรือไม่ จะเอาให้เกิน 251 เสียง ไป 270 เสียงให้ได้
ชนะลึกขึ้น ก้าวไกลแม้ไม่ได้ส่งผู้สมัครนายกอบจ. ในจังหวัดที่ส่ง แม้จะส่งน้อย แต่เอาคุณภาพ หวังชนะให้ได้ลึกขึ้น เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย เราเชื่อว่ามาเปลี่ยนแปลงประเทศไทย ผ่านการเลือกตั้ง อย่าเชื่อให้ประเทศไทยผ่านความรุนแรง หรือ กระสุน
พรรคก้าวไกลสันติวิธี รอได้ เราสามารถสร้างความการเปลี่ยนแปลงระบบที่เป็นระบบ หรือทำอะไรที่ไม่ได้เป็นการเปลี่ยนแปลงตามระบอบประชาธิปไตย แต่ไม่ต้องการชกใต้เข็มขัด แม้เราโดน แต่เราไม่ทำ"นายพิธากล่าว
