ปิยบุตร ย้ำ คำพิพากษาศาล คดีก้าวไกล ต้องตอบสังคม วิจารณ์ได้
ปิยบุตร ระบุ คุณสมบัติผู้นำพรรครุ่นต่อไป ต้องยึดแนวทาง อนาคตใหม่ ก้าวไกล พร้อมแบกความคาดหวังประชาชน เผย สส.กำลังใจยังดี มั่นใจ ข้อต่อสู้ทางกฎหมายก้าวไกล สู้ในชั้นศาลได้ ชี้ คำพิพากษาศาล ต้องตอบสังคม ถูกวิจารณ์ได้ ชี้ ศาลไม่เคยห้ามแก้112 แค่บอก ต้องแก้แบบไหน
นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าให้สัมภาษณ์ก่อนศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกลว่า เมื่อวันที่6ส.ค. สส.พรรคก้าวไกล ได้นัดประชุมกันและหลังการปิดประชุมได้เชิญตนเองไปพูดเพื่อให้กำลังใจในฐานะที่เคยมีประสบการณ์ถูกยุบพรรคถูกตัดสิทธิทางการเมืองมาก่อน สส.ขวัญและกำลังใจยังดี ในฐานะที่สอนวิชานิติศาสตร์ สอนกฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายว่าด้วยวิธีการพิจารณาคดีรัฐธรรมนูญ เมื่อไหร่ก็ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสิน จะพยายามอธิบายทุกครั้งให้เป็นไปตามหลักการและกฎหมายที่ถูกต้อง อย่าเอาความรู้สึก อย่าเอาเหตุปัจจัย ทางการเมือง เข้ามาเป็นส่วนผสมในการตัดสิน
เข้าใจดีว่าประสบการณ์ตลอด2ทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศไทยมีการยุบพรรคเกิดขึ้นหลายครั้งหลายหน มีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจำนวนมากที่ส่งผลกระทบต่อการเมืองไทยอย่างมีนัยยะสำคัญ จึงเป็นธรรมดาที่สังคมและประชาชนจำนวนมาก จะประเมินเรื่องนี้จากแง่มุมทางการเมือง จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ถ้ามองในแง่ข้อกฎหมาย ยืนยันว่า ข้อต่อสู้ของพรรคก้าวไกลที่มีการแถลงและเเผยแพร่เอกสารนั้น ยังมีความมั่นใจ มีความเห็นว่า กรณีนี้ไปไม่ถึงการยุบพรรค แต่สุดท้ายก็ต้องรอดูศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยอย่างไร
นายปิยบุตรกล่าวว่า ประเด็นข้อต่อสู้ของพรรคก้าวไกลที่ยื่นต่อศาล ประเด็นเสนอแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา112 เป็นกระบวนการนิติบัญญัติไม่ใช่การล้มล้างการปกครอง และยังมีการพูดไปถึงมาตรการการยุบพรรคใช้เท่าที่จำเป็น ใช้อย่างระมัดระวังเป็นข้อยกเว้นเป็นมาตรการสุดท้าย ต้องเป็นไปตามหลักการได้สัดส่วน
ดังนั้นจึงเห็นว่า พรรคก้าวไกลสู้ประเด็นครบถ้วนทั้งหมด ขึ้นอยู่กับศาลว่าจะวินิจฉัยอย่างไร และจะต้องตอบประเด็นข้อโต้แย้งทั้งหมดอย่างไร เพราะไม่ได้เป็นการตอบแค่พรรคก้าวไกล และกกต.เท่านั้น ต้องตอบประชาชนและสังคมด้วย คดีนี้เป็นคดีเกี่ยวกับการยุบพรรคก้าวไกลที่มีสมาชิกพรรคหลายหมื่นคน และผ่านการเลือกตั้งปีที่ผ่านมาได้คะแนนมากว่า14.4ล้านเสียง มีสส.151คน ชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับ1
ถามว่าหากสุดท้ายพรรคก้าวไกล รอดคดี จะสะท้อนอะไรถึงประเด็นทางนิติศาสตร์ นายปิยบุตร ตอบว่า คงต้องดูและศึกษาคำวินิจฉัยก่อน แล้วจะมีข้อวิจารณ์ตามมา เชื่อว่าการจะจรรโลงประชาธิปไตย รักษาสถาบันองค์กรตุลาการศาบรัฐธรรมนูญได้ สิ่งสำคัญคือ ต้องมีการวิพากษ์วิจารณ์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญได้
นายปิยบุตรยังกล่าวถึงผู้นำรุ่นใหม่ควรมีคุณสมบัติอย่างไรว่า ในฐานะที่ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ แล้วน้องๆไปอยู่ที่พรรคก้าวไกล เขาก็เดินหน้าตั้งใจทำงาน คิดว่า กลุ่มขั้วความคิด แบบอนาคตใหม่ ก้าวไกล ตอนนี้ถูกสถาปนาขึ้นเป็นขั้วความคิดทางการเมือง และพลังทางการเมืองแบบใหม่เรียบร้อยแล้ว คนที่จะขึ้นมารับบทบาทต่อไปทั้งในวันนี้และวันหน้า จะต้องยึดตามแนวทางของอนาคตใหม่ ก้าวไกล ต่อไป สิ่งสำคัญที่สุดไม่ใช่เรื่องของคนไม่กี่คน แกนนำพรรคไม่กี่คน สส.ไม่กี่คน แต่สำคัญที่ความคาดหวังของประชาชน ไม่ว่าวันนี้อะไรจะเกิดขึ้น พี่ๆน้องๆในพรรคก้าวไกลก็จะอาสาเดินหน้านำพาความหวังไปให้สำเร็จ
นายปิยบุตร กล่าวว่า จากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ 3/67 ไม่มีคำไหนที่บอกว่าแก้ไม่ได้สำหรับประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 แต่บอกว่าต้องแก้แบบไหน ส่วนพรรคไหน สส.คนไหน สมาชิกพรรคการเมืองใดจะนำไปรณรงค์ ต้องประเมินสถานการณ์ทางการเมือง แต่ในความเห็นทางวิชาการยืนยันเสมอมาว่า การรักษาสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อดำรงอยู่ในประชาธิปไตย อย่างมั่นคง ยั่งยืน ให้สมกับพระเกียรติยศ ให้สอดคล้องกับประวัติศาสตร์ของประเทศไทย มีความจำเป็นที่ต้องปรับปรุงแก้ไข ม.112