โกศล ย้ำ ไม่ละเลยแรงงานไทย Entertainment Complex กระตุ้นเศรษฐกิจ ท่องเที่ยว
โกศล อดีตมือร่างกฎหมาย Entertainment Complex ชี้แจง ภูมิใจไทย ท้วงติงเปิดกาสิโน มั่นใจ ดึงรายได้กว่า 1.2 หมื่นล้าน/ปี แม้มี กาสิโน ไม่ได้ยกเลิกกฎหมายพนัน ไม่ละเลยแรงงาน กำหนดสัดส่วนแรงงานไทย ท้องถิ่น หวังเกิดรายได้ในพื้นที่ แจงตั้งทุนจดทะเบียนสูง ไม่อยาเห็นการไปขายต่อ
นายโกศล ปัทมะ อดีตประธานอนุกรรมาธิการ วิสามัญพิจารณากฎหมาย สถานบันเทิงครบวงจร(Entertainment Complex) และสส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย กล่าวถึง ข้อห่วงใยพรรคภูมิใจไทย ต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์) พ.ศ. ….ว่า เข้าใจว่าข้อห่วงใยจากพรรคภูมิใจไทย ทางผู้ใหญ่ของทั้ง2พรรคจะต้องพูดคุยเพื่อหาทางออกกัน ประเด็นข้อห่วงใยเท่าที่ฟัง ความเป็นห่วง อาจไม่สามารถแก้การพนันได้นั้น
การศึกษาของกรรมาธิการฯ เคยเชิญกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่อีกหลายหน่วยงาน มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมาย แม้จะมี Entertainment Complex แต่เราไม่ได้ยกเลิก พรบ.การพนัน ยังคงมีการบังคับใช้อยู่ และสัดส่วนกาสิโน เป็นเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ หากเทียบกับธุรกิจอื่นที่จะอยู่ในสถานบันเทิงครบวงจร
ประเด็นความห่วงใยไม่อาจกระตุ้นเศรษฐกิจได้ สมัยทำการศึกษา ได้เชิญตัวแทนสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หน่วยงานเกี่ยวข้องการจัดเก็บภาษี ประเมินรายได้ที่ประเทศจะได้สูงถึง 1.2 หมื่นล้านบาทต่อปี การกำหนดใบอนุญาต การต่ออายุ ฉบับละ 5,000 ล้านบาท ส่งเงินเข้ารัฐปีละ 1,000 ล้านบาท ตรงนี้เหมือนเงินกินเปล่า แต่ในส่วนนี้ยังไม่รวม ภาษีสรรพสามิต จะได้มากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับคนเข้ามาใช้บริการ และยังไม่รวม ภาษีเงินได้ ที่ส่งเข้ารัฐ มั่นใจจากคนที่เข้ามาใช้บริการสถานบันเทิงครบวงจร จะช่วยการกระตุ้นเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว
เรื่องแรงงาน ในการผลักดัน Entertainment Complex จะต้องมีการร่าง TOR กำหนดสัดส่วนแรงาน ในอุตสาหกรรมดังกล่าวไว้อย่างครบถ้วนว่า ต้องมีแรงงานต่างชาติกี่เปอร์เซ็นต์ แรงงานไทยเท่าไหร่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ต้องมีแรงงานท้องถิ่น ในพื้นที่ เป็นสัดส่วนเท่าไหร่ เพราะจุดประสงค์ เราต้องการให้เกิดการสร้างงานกับคนไทย ทำให้คนในพื้นที่มีรายได้ รวมทั้งยังมีการกำหนดเงินที่ได้มา จะต้องมีการนำไปช่วยเหลือผู้คนในด้านต่างๆ ซึ่งกำหนดไว้หมด
นอกจากนี้เรื่องทุนจดทะเบียน ที่กำหนดไว้ 1 หมื่นล้านบาท จากการศึกษาที่ได้เชิญหน่วยงานมา นำมาสู่ข้อสรุปเพราะ อยากเห็นผู้ที่ได้รับใบอนุญาต เป็นคนที่ตั้งในทำจริง ไม่อยากเห็น ผู้ประกอบการ เมื่อได้ใบอนุญาตไปแล้ว นำไปเซ้ง หรือ ขายต่อ จึงได้กำหนดตัวเลขดังกล่าวขึ้นมา แต่ในรายละเอียดต่างๆ หากมีการมองว่าสูงหรือไม่เหมาะ เมื่อเข้าสภาฯ สามารถปรับเปลี่ยนได้
นายโกศลกล่าวอีกว่า ตามขั้นตอนหลัง สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนแล้วเสร็จ วันที่ 18ส.ค. จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)อีกรอบ จากนั้นส่งมาให้ สภาผู้แทนราษฎร พิจารณา รายละเอียดเนื้อหากฎหมายต่างๆ ยังสามารถปรับปรุงแก้ไขได้ ร่างกฎหมายของสศค. กับ ร่างของอนุกรรมาธิการฯ ของกรรมาธิการฯ ที่เคยศึกษาส่งไปให้ครม.รับทราบ เนื้อหา ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก
ส่วนกระบวนการจะนำเสนอต่อที่ประชุมครม.เมื่อใด ใช้ระยะเวลานานเท่าใด จะส่งเข้าสภาฯเพื่อพิจารณาเมื่อใด เรื่องนี้ไม่ทราบ แต่ในการตั้งกรรมาธิการวิสามัญศึกษาการเปิด Entertainment Complex มีตัวแทนจากทุกพรรคการเมือง ในการอภิปรายผลศึกษา แต่ละคนนำเสนอประเด็นที่ห่วงใย เช่น ผลกระทบทางสังคม อยากให้มีการบังคับใช้กฎหมาย ระเบียบต่างๆอย่างเคร่งครัด เรื่องทางเศรษฐกิจ เมื่อมีการลงมติ ผลปรากฎว่าเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วย
สำหรับการจัดเก็บรายได้ เมื่อย้อนไปดู สหรัฐฯ มีรายได้เฉลี่ยจากธุรกิจการพนันถึง 3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี แบ่งเป็น รายได้จากกาสิโนเฉลี่ย 8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี การจัดเก็บภาษีจากธุรกิจกาสิโนขึ้นอยู่กับกฎหมายของแต่ละมลรัฐ บางมลรัฐสามารถจัดเก็บได้สูงถึง 51% ของรายรับ สิงคโปร์มีมาตรการพิเศษสำหรับพลเมืองของประเทศ โดยต้องเสียค่าเข้ากาสิโนในอัตรารายวันหรือรายปี เพื่อป้องกันปัญหาการติดพนัน
สิงคโปร์ ส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ก่อนโควิด-19 ทำกำไรมากที่สุดในโลก รัฐบาลสิงคโปร์จัดเก็บภาษีจากธุรกิจการพนันในอัตรา 22% ของรายรับ มีการคาดว่าอุตสาหกรรมดังกล่าวจะฟื้นตัวในปี 2568 ส่วนประเทศไทย มีการประเมินคาดการณ์ว่า จากการจัดเก็บรายได้น่าจะสูงถึง 1.2 หมื่นล้านบาทต่อปี