posttoday

เปิดภาพครม.แพทองธาร ก่อนเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ นายกฯอิ๊งค์ รับตื่นเต้น

06 กันยายน 2567

แพทองธาร พร้อมคณะรัฐมนตรี ทยอยเดินทางเข้าทำเนียบ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนเดินทางเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ นายกฯอิ๊งค์ รับตื่นเต้น แซวสื่อ ขอให้เลือกภาพสวยๆ ทรงศักดิ์ ซาบีดา ติดโควิด ได้ร่วมเข้าเฝ้าฯ ชูศักดิ์ ไม่ติดใจ โดนสังคมมอง ครม.สืบสันดาน ระบุ เป็นแค่ศัพท์การเมือง

วันที่6ก.ย. บรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล ก่อนน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนำคณะรัฐมนตรี(ครม.)เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ ในเวลา 18.15 น. ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต 

 ตั้งแต่เวลา 14.00 น. รัฐมนตรีเริ่มทยอยเดินทาง เข้ามาเพื่อถ่ายภาพในเครื่องแบบปกติขาว น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย เดินทางมาถึงเป็นคนแรก ตามมาด้วยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ และรมว.พาณิชย์ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  

เวลา 14.40 น. น.ส.แพทองธาร เดินทางมาถึงทำเนียบฯ ด้วยรถเบนซ์ รุ่น Vito Tourer สีบรอนซ์ เลขทะเบียน ขจ 995 กรุงเทพมหานคร โดยเมื่อลงจากรถ น.ส.แพทองธาร ได้สวัสดีและโบกมือทักทายสื่อมวลชน 
 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าตื่นเต้นหรือไม่ น.ส.แพทองธาร ชี้มาที่สื่อมวลชนพร้อมกล่าวว่า “นี่แหละที่ทำให้ตื่นเต้น” จากนั้นนายกฯ ยื่นมือให้สื่อมวลชนจับและถามว่า "มือเย็นไหม" สื่อตอบว่า ไม่ได้ตื่นเต้นเลย แต่มือเย็นมาก ขณะที่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า "แอร์ในรถเย็นอากาศหนาว" ก่อนจะขึ้นไปถ่ายรูปในตึกสันติไมตรี ระหว่างนั้น น.ส.แพทองธาร ได้บอกกับช่างภาพว่า"เลือกรูปสวยๆหน่อยนะคะ"

นอกจากนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายเดชอิศม์ ขาวทอง รมช.สาธารณสุข พร้อมด้วยรัฐมนตรีคนอื่นๆ ต่างทยอยเดินทางมาถ่ายรูปติดบัตรแสดงตน เตรียมพร้อมสำหรับการเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณตน ขณะที่ รัฐมนตรีหลายคน ได้ทักทายพูดคุยหยอกล้อกันอย่างเป็นกันเอง 
 

ขณะที่นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย นางสาวซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ที่ผลตรวจออกมาแล้วพบว่าติดโควิด เดินทางไปที่พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ด้วยตัวเอง และเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณได้ แต่จะมีการแบ่งเป็นสัดส่วนแยกห้อง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด

นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามสื่อมวลชน หลังจากครม.ชุดดังกล่าว ถูกเปรียบเปรยเป็น ครม.สืบสันดาน เนื่องจากมีคณะรัฐมนตรี ที่สืบต่อกันทางเครือญาติหลายคน ว่าคำที่เปรียบเทียบเช่นนี้ แรงไปหรือไม่ว่า แล้วแต่มุมมองของแต่ละคน เป็นศัพท์ธรรมดา ส่วนตัวมองว่าเป็นเพียงศัพท์ทางการเมืองที่ใช้กัน เหมือนกับในช่วงปีใหม่ที่ทางผู้สื่อข่าวจะมีการตั้งฉายารัฐบาล และรัฐมนตรี ให้มันเป็นเรื่องปกติธรรมดา แต่เมื่อสภาพการเมืองไทยเป็นเช่นนี้ มีพรรคการเมือง มีคณะรัฐมนตรี เราจะไปขอให้พรรคเพื่อไทย ตั้งโควตารัฐมนตรีทั้งหมดก็คงไม่มีใครเล่นด้วย จะจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้

ถามว่าเป็นผลพวงมาจากคำว่าจริยธรรมของการวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ จึงใช้วิธีการสืบสันดานเพื่อแก้ไขปัญหาใช่หรือไม่ นายชูศักดิ์กล่าวว่า จะมองอย่างนั้นก็ได้ ได้บอกไปแล้วว่า บางถ้อยคำอาจมีปัญหา อาจจะต้องปรับต้องแก้ แล้วแต่มุมมอง จึงอยากให้ทุกคนมองเป็นเรื่องปกติธรรมดาของการเมือง อย่าไปเครียดอะไรมาก

เมื่อถามว่าถือว่าเป็นการแก้เกม ของขั้วอำนาจเดิมใช่หรือไม่นายชูศักดิ์กล่าวว่า ไม่อย่าไปมองอย่างนั้น ให้มองเป็นเรื่องปกติธรรมดาจะสบายใจกว่า