posttoday

ณัฐพงษ์ โวย Entertainment Complex รัฐบาลอิ๊งค์ ล็อกให้นายทุน

12 กันยายน 2567

ณัฐพงษ์ พรรคประชาชน อัดคำแถลงนโยบายรัฐบาลอิ๊งค์ นโยบายเรือธงเอื้อ 3 นาย นายใหญ่ นายทุน นายหน้า ผิดหวัง แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ปรับแผนจ่ายเงินสด ไม่เหลือเค้าโครงเดิม สงสัย Entertainment Complex เอื้อประโยชน์คนบางกลุ่ม ล็อกสเปคให้นายทุนหรือไม่

ที่อาคารรัฐสภา ภายหลังจาก นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา นำเสนอแผนงานการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน และแผนงานระยะกลาง ระยะยาว จบลง

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ลุกขึ้นอภิปรายตอนหนึ่งว่า 1 ปีที่สูญเปล่า จากการจัดตั้งรัฐบาลผสมพันธุ์ข้ามขั้ว ที่ไม่มีประชาชนอยู่ในสมการการตัดสินใจ 3 ปีต่อจากนี้ จะตั้งชื่อเรียกว่า รัฐบาล 3 นาย นายใหญ่ นายทุน นายหน้า ที่มีแต่เจ๊ากับเจ๊ง พูดง่ายๆ คือไม่มีอนาคตที่ดีขึ้น หากเรายังอยู่ในระบบการเมืองแบบนี้ พวกท่านกำลังสยบยอมต่อกระบวนการนิติสงครามที่ทำลายหลักนิติธรรมและนิติรัฐของประเทศไทยไปจนสิ้น

โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เลื่อนแล้วเลื่อนอีก ปรับแผนเป็นทยอยจ่ายเป็นเงินสด ไม่ใช่เงินดิจิทัลทั้งหมด มีความน่ากังวลว่านโยบายบล็อกเชนจะยังอยู่ในนโยบายนี้หรือไม่ นโยบายเรือธงลำนี้ แทบไม่เหลือเค้าโครงอะไรอีกแล้ว ไม่แน่ใจว่าเรือธงลำนี้ ให้ใครขึ้น ประชาชนขึ้น หรือให้นายคนไหน
 

ความท้าทายของประเทศในอนาคต 3 ปี คาดหวังว่าจะได้เห็นจากคำแถลงนโยบายที่เป็นรูปธรรม อาทิ วิกฤตการศึกษา คนไทยขาดทักษะจำเป็นในโลกอนาคต ด้านการแข่งขันกับต่างประเทศ สินค้านำเข้าทะลัก โรงงานทยอยปิดตัว ความท้าทายด้านชีวิตรายวัน ประชาชนคนไทยทุกวันนี้ ยังต้องเจอปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ สร้างมูลค่าความเสียหายให้ประเทศ ค่าแรงขั้นต่ำเคยปรากฏอยู่ในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลชุดที่แล้ว กลับไม่ปรากฏอยู่ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลชุดนี้

นโยบายเรือธง ที่กำลังมีคำถามว่าเป็นนโยบายเรือธง หรือเพื่อ 3 นาย นายใหญ่ นายหน้า และนายทุน เช่น โครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นนโยบายเรือธงที่ให้นายใหญ่ขึ้นใช่หรือไม่ นโยบายสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) มีข้อครหาว่า จะล็อกการประมูลเอื้อประโยชน์บางกลุ่ม เป็นนโยบายเรือธงให้นายทุนหรือไม่ และนโยบายการเวนคืนที่ดินมากมาย เป็นนโยบายที่เอื้อนายหน้าค้าที่ดินหรือไม่
 

นายณัฐพงษ์กล่าวอีกว่า เรื่องสำคัญคือการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อแก้ปัญหานิติรัฐ และหยุดนิติสงคราม ไม่ปรากฏในนโยบายเร่งด่วน และนโยบายเรือธง มาวันนี้ที่ทุกคนได้รับผลกระทบเหมือนกัน ควรจะกลายเป็นนโยบายเร่งด่วนได้แล้ว ประชาชนกำลังรอฟังผลลัพธ์ว่าการจัดตั้งรัฐบาลตัวแทน ที่สงสัยว่าอาจจะไม่ใช่ตัวจริง จะช่วยให้ 3 ปี ต่อจากนี้ เจ๊า หรือ เจ๊ง หรือไม่ ถ้าเราไม่แก้ปัญหาที่ต้นตอ

ส่วนตัว ต้องการให้นายกรัฐมนตรีแสดงบทบาทความเป็นผู้นำ ผู้นำที่ดีนอกจากการรับฟังความเห็นสมาชิกแล้ว ยังต้องชี้นำความคิดที่ถูกที่ควรให้กับสังคมด้วย หวังว่านายกรัฐมนตรีจะลุกขึ้นตอบว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญจะเป็นวาระด่วนของประเทศนี้ มีประเด็นที่ต้องแก้ไขด่วนคือ แก้ไขมาตรฐานจริยธรรม ยกเลิกมาตรา 279 เพื่อเร่งรัดยกเลิกประกาศและคำสั่ง คสช., เพิ่มหมวดป้องกันและต่อต้านรัฐประหาร ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ที่สามารถร่วมกันทำได้ เพื่อแก้ไขปัญหาที่ต้นตอ