posttoday

ประชาชน สับ ไม่รักษาคำพูด แจกเงินดิจิทัล ไร้วี่แวว เปิดประมูลระบบชำระเงิน

19 กันยายน 2567

ศิริกัญญา พรรคประชาชน สับ รัฐบาล ไม่รักษาคำพูด แจกเงินดิจิทัล หลอกกลุ่มคนไม่เปราะบาง ไม่มีสมาร์ทโฟน ลงทะเบียนเก้อ หวั่น 25ก.ย. เลื่อนร้านค้าลงทะเบียน ไร้วี่แวว เปิดประกวดราคาระบบชำระเงิน จุลพันธ์ อ้างเปลี่ยนรัฐบาล ลงนามไม่ได้ ท่องคำเดิมมั่นใจ ดิจิทัลกระตุ้นเศรษฐกิจได้

วันที่ 19 ก.ย.ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ตั้งกระทู้สดตั้งคำถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถึงการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ตอนหนึ่งว่า การกระตุ้นเศรษฐกิจได้เป็นเรื่องของความเชื่อมั่น แต่การไม่สามารถรักษาคำพูด เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ความเชื่อมั่นของประชาชนลดลง ประชาชนกลุ่มไม่มีสมาร์ทโฟน ที่ไม่ใช่กลุ่มเปราะบาง ถูกหลอกให้ไปลงทะเบียนเก้อ ร้านค้าที่รอลงทะเบียนวันที่ 25 ก.ย. จะมีการเลื่อนอีกหรือไม่ ร้านค้าต้องเตรียมตัวอย่างมากตามเงื่อนไข ทั้งนี้โครงการดิจิทัลวอลเล็ตดั้งเดิมจะแจกเมื่อไหร่ กี่คน กี่ครั้ง และกี่บาท ไม่เช่นนั้นประชาชนที่รอคอยก็จะต้องเกิดความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าจะได้เงิน 10,000 บาท ทำให้การอุปโภคบริโภคไม่คล่องตัวหรือทำให้เกิดความไม่เชื่อมั่นที่จะออกไปใช้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจ 

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายจากรมว.คลัง ชี้แจงว่า เป็นเพราะต้องการให้ไม่มีการทับซ้อนกัน ระหว่างการลงทะเบียนของผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนกับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขณะนี้มีผู้ลงทะเบียนแล้ว 36 ล้านคน ยังไม่ได้คัดกรองเพราะมีกระบวนการอีก 1-2 อย่าง ในกลุ่มผู้ไม่มีสมาร์ทโฟนนั้น ปลัดกระทรวงการคลังได้เคยให้ตัวเลขไว้นานแล้ว กะว่าไม่เกิน 4 ล้านราย 4 ล้านนี้หากพิจารณาโดยหลักพื้นฐานโดยมากคือ คนในกลุ่มเปราะบาง เมื่อแจกกลุ่มเปราะบางไปแล้ว แนวโน้มคือ 4 ล้านคนจะเหลือไม่มากอย่างมีนัยสำคัญ จะลดภาระประชาชนในกลุ่มที่ต้องเดินทางมาลงทะเบียนไปอีกส่วนหนึ่ง

สิ่งที่ต้องดำเนินการคือหลังตรวจสอบสิทธิจาก 36 ล้านรายอาจจะเหลือ 34-35 ล้านราย เมื่อปิดยอดหักจากรายชื่อที่ได้รับเงินจากกลุ่มเปราะบางก็จะได้ตัวเลขสุดท้าย จะสามารถบริหารจัดการด้วยงบประมาณที่มีอยู่ได้ หากขาดเหลือไม่มากก็เติมให้ครบได้ในครั้งเดียว หากเป็นประโยชน์กับการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือถ้าเกิดมีจำนวนมากก็ยังมีแนวทางในการแบ่งยอด แม้ประชาชนบางส่วนอาจไม่พอใจ แต่ก็ต้องมองถึงประโยชน์ที่เกิดกับประเทศเป็นหลัก
 

นางสาวศิริกัญญา ยังถามต่ออีกว่า รมช.คลัง ย้ำหลายครั้งถึงวัตถุประสงค์ของโครงการในการทำให้เกิดเศรษฐกิจดิจิทัล แต่หัวใจสำคัญของเรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของแอปทางรัฐ แต่คือดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะเกิดขึ้นได้จากระบบการชำระเงิน มีการออกแบบให้เป็น open loop และเป็นบล็อกเชน เพิ่งถูกยกเลิกการประกวดราคาไปเมื่อวันที่ 27 ส.ค. เนื่องจากไมมีบริษัทไหนเข้ามาเสนอราคาแม้แต่บริษัทเดียว เนื่องจากบริษัทที่พัฒนาร่วมกันมาตัดสินใจถอนตัว เท่ากับว่าในวันนี้ ระบบการชำระเงินยังไม่ได้เริ่มมีการประกวดราคาอีกครั้ง ธนาคารพาณิชย์ต้องใช้เวลาล่วงหน้าในการพัฒนาระบบเป็นหลักปีในโครงการทั่วไป แต่โครงการนี้ยังไม่มีอะไรเป็นรูปธรรม สรุปแล้วเศรษฐกิจดิจิทัลที่รัฐบาลพูดถึงจะเป็นอย่างไร

นายจุลพันธ์ ชี้แจงอีกว่า ผู้ดูแลระบบชำระเงินปัจจุบันคือสำนักงานรัฐบาลดิจิทัล (DGA) เคยมีการพูดกันในสังคมว่า กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างมีการล็อก แต่พอกระบวนการออกมาจริงไม่มีการคัดเลือกล่วงหน้า โปร่งใสทุกประการ จึงมีการเลื่อนกระบวนการในการประมูลไป ส่วนเรื่อง open loop หรือการเชื่อมต่อกับธนาคารพาณิชย์ยังเป็นภาพที่รัฐบาลมองไว้อยู่ แต่ที่เลื่อนไปเพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านรัฐบาล ที่รัฐบาลรักษาการไม่มีอำนาจในการทำข้อตกลงกับธนาคารใด 

เรื่องความหวังต่อเศรษฐกิจดิจิทัล รัฐบาลยืนยันว่าต้องเริ่มจากความคุ้นชินของประชาชน ที่ผ่านมาไม่เคยมีแอปไหนในประเทศไทยที่เป็นของรัฐที่จะดึงคนเข้ามาได้ถึง 36 ล้านคนภายในเวลาแค่1เดือน คือข้อมูลกลางที่จะเป็นประโยชน์กับภาครัฐในการกำหนดนโยบายเป็นอย่างยิ่ง กระบวนการในการพัฒนาระบบชำระเงินเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ รัฐบาลยังมีความคิดว่าจะมีการทดลองแซนด์บ็อกซ์ในการจ่ายชดเชยน้ำท่วม ยิงเงินไปยังประชาชนในกลุ่มที่รัฐบาลกำหนดตามแนวนโยบายของรัฐได้