ภูมิธรรม ถอย แก้รธน.ปมจริยธรรม ขอหารือพรรคร่วมรัฐบาล ถอน-ไม่ถอน ร่างแก้ไข

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีพรรคเพื่อไทย ถอยการแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ประเด็นเรื่องจริยธรรม ว่า เรื่องนี้จบแล้ว ไม่มีอะไร ไปโฟกัสเรื่องนํ้าท่วมดีกว่า ทุกคนไปทำงานช่วยนํ้าท่วม เรื่องสำคัญนอกจากนํ้าท่วม คือการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตอนนี้เริ่มด้วยการกดปุ่มแจกเงิน 10,000 บาท ให้กับผู้พิการ เป็นจำนวนทั้งหมด 1.45 แสนล้านบาท จะนำไปช่วยเหลือเยียวยากลุ่มเปราะบาง เป็นเรื่องที่ประชาชนตั้งตารอ รอดูว่า เงินก้อนนี้ จะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไรบ้าง จะได้เตรียมเฟส2ต่อไป 

ถามว่า ร่างที่เสนอแก้ไขรายมาตราไปแล้วก่อนหน้านี้ ต้องถอนออกมาก่อนใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า หลังจากนี้ค่อยคุยกัน ตอนนี้ยังไม่คุย

ถามว่าจะรอแก้ทั้งฉบับทีเดียวใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ยังไม่คุยกัน ค่อยหารือร่วมกัน ต้องให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล เรื่องนี้เดินหน้าในสภาฯอยู่แล้ว ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ การทำประชามติ กระบวนการเดินไปอยู่แล้ว 

เมื่อถามว่า สามารถทำคู่ขนานกันไปได้หรือไม่ ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการช่วยเหลือนํ้าท่วม นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่องแก้ไขรัฐธรรมนูญ สภาทำอยู่แล้ว กระบวนการเดินหน้าไป อยากให้ไปโฟกัสเรื่องอื่น ตอนนี้ขอโฟกัสกระตุ้นเศรษฐกิจ เยียวยาผู้ประสบภัยนํ้าท่วม 
 

ถามว่า มีกำหนดเวลาพูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลหรือยัง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่มี ต้องให้คลี่คลายเรื่องนํ้าท่วม วันที่ 27 ก.ย. นายกรัฐมนตรีและรองนายกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง จะเดินทางไป จ.เชียงราย ประชุมที่สนามบิน เพื่อดูสภาพสถานการณ์ โดยเฉพาะการดูดโคลน รวมถึงการเยียวยา จะเดินทางไปในพื้นที่ จากนั้นนายกรัฐมนตรี จะนั่งเครื่องบินไป จ.เชียงใหม่ เพื่อดูการแก้ปัญหานํ้า ที่พึ่งมีนํ้าไหลลงมา รองนายกรัฐมนตรี จะแยกกันลงพื้นที่ 

เมื่อถามว่า เดิมที่กำหนดว่าจะคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่มีแล้ว ให้ยุติก่อน ทุกคนไปทำงานอื่น ส่วนสภาก็เดินหน้าของตัวเองไป 

เมื่อถามว่า แสดงว่าวันนี้ การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา เรื่องจริยธรรม ยังไม่ปิดประตูตายใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้คิดอะไร จะปิดหรือไม่ เดี๋ยวค่อยว่ากัน เอาเรื่องของประชาชนก่อน วันนี้ เราต้องห่วงประชาชน เพราะกำลังลำบาก อย่าไปสนใจเรื่องอื่น ที่ไม่ใช่ของประชาชน