ครูมานิตย์ ค้าน ยกเลิกทัศนศึกษา แนะ เลือกสถานที่ใกล้ เหมาะแต่ละชั้นเรียน

ที่อาคารรัฐสภา นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎกร กล่าวถึงกรณี พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สั่งการให้งดกิจกรรมทัศนศึกษาออกไปอย่างไม่มีกำหนดว่า ในฐานะที่เคยเป็นครูมาก่อนไม่เห็นด้วย เพราะการทัศนศึกษา เป็นบทเรียนหนึ่งและเป็นประสบการณ์ที่สำคัญของนักเรียน ไปแล้วก็มีความสุข จะไปแก้ที่ปลายเหตุไม่ได้ แต่ควรจำกัดว่า เด็กระดับชั้นใดควรจะไปในสถานที่ระยะเท่าใดบ้าง เช่น หากอยู่จังหวัดสุรินทร์แล้วมาทัศนศึกษาที่จังหวัดกรุงเทพมหานคร เด็กก็เหนื่อย ควรจัดใกล้ๆ และควรแบ่งระยะตามลำดับชั้น กระทรวงศึกษาธิการควรมีมาตรการในส่วนนี้มากกว่า รวมถึงพาหนะที่ใช้ต้องมีองค์ประกอบอะไรบ้าง
 

นายครูมานิตย์กล่าวว่า ในฐานะที่เคยเป็นครูคิดว่า คุณครูต้องหารถที่มีราคาถูก เพื่อนำมาใช้เป็นค่าอาหารเด็กด้วย อะไรที่ช่วยโรงเรียนประหยัดได้ก็จะมีความคิดเช่นนั้น ไม่ได้โทษครู หากทางกระทรวงศึกษาธิการต้องการควบคุมเรื่องนี้ ต้องออกมาตรการมาควบคุม อย่างกรณีที่เกิดขึ้น เด็กอนุบาลกับเด็กชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มานั่งรถด้วยกัน ส่วนตัวมองว่า ความต่างในระดับวัยมากเกินไป จนทำให้ไม่ได้ประโยชน์ ควรจัดให้มีความเหมาะสมในแต่ละช่วงวัย ขอย้ำว่า ยังเห็นด้วยกับการให้เด็กไปหาประสบการณ์นอกห้องเรียน

นายครูมานิตย์กล่าวอีกว่า มีประเด็นที่สังคมเคลือบแคลงอยู่หลายเรื่อง สถานตรวจสภาพรถเอกชน(ตรอ.) สถานที่ตรวจสภาพรถมีการรายงานอย่างไร การติดตั้งก๊าซ ที่ได้รับการอนุญาตแค่ 6 ถัง แต่บนรถมี 11 ถัง เกิดขึ้นได้อย่างไร เรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดแค่คันนี้แค่คันเดียว เมื่อเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นจึงเห็นปัญหา แม้เป็นรถวิ่งไม่ประจำทาง เวลาเทศกาลรถพวกนี้จะใช้วิ่งเสริมต่อเนื่อง แน่นอนที่สุดว่าต้องใช้เชื้อเพลิงไว้จำนวนมาก เพราะจะได้ไม่ต้องเสียเวลา ไม่ได้คำนึงถึงอุบัติเหตุ คำนึงถึงเพียงแค่เรื่องผลประโยชน์

อยากให้กรมการขนส่งทางบก ออกมาตรการ สำรวจอย่างเอาจริงเอาจังและทางคณะกรรมาธิการคมนาคม จะลงไปตรวจสอบด้วย รวมถึงรายละเอียดในการจดทะเบียน เท่าที่ทราบรถคันนี้ ตอนจดทะเบียน ไม่ได้มีการระบุถึงการติดตั้งก๊าซ ทำให้บริษัทประกันไม่ทำประกันให้ จึงเป็นห่วงว่าประกันจะมีปัญหาหรือไม่ที่ จะจ่ายศพละ 1 ล้าน เพราะว่า เบื้องต้นเวลาไปทำสัญญาบอกว่าใช้ถัง 6 ถังแต่บนรถมี 11 ถัง