posttoday

แพทองธาร เอาจริง หารือนายกฯสปป.ลาว ปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์-ค้ายาเสพติด

08 ตุลาคม 2567

แพทองธาร หารือ นายกฯสปป.ลาว ถกปัญหาสำคัญไทย จับมือแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ปัญหายาเสพติด ปัญหาหมอกควัน การแก้ไขปัญหาแม่น้ำโขงป้องกันน้ำท่วม เน้นย้ำ เพิ่มความร่วมมือเศรษฐกิจ การค้า ลงทุน ให้เพิ่มขึ้น นายกฯเชิญ นายกฯลาวเยือนไทย ฉลองสัมพันธ์ 75ปี

วันที่ 8 ต.ค. ที่สำนักงานนายกรัฐมนตรีสปป.ลาว  นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติใน ในการเดินทางเยือนสปป.ลาวอย่างเป็นทางการ นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการหารือเต็มคณะกับนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรี สปป.ลาว มีนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย 

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้
 
นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตรกล่าวขอบคุณสำหรับการต้อนรับอย่างอบอุ่น ไทยและ สปป.ลาว เป็นเพื่อนบ้านที่มีความเชื่อมโยงผูกพันและร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ขอขอบคุณรัฐบาล สปป.ลาว ที่ถวายการต้อนรับสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี อย่างสมพระเกียรติ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ยินดีที่โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในสปป.ลาว มีส่วนช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ขอเชิญนายกรัฐมนตรีสปป. ลาวและภริยา เยือนไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้งหลังจากที่ต้องเลื่อนออกไป ซึ่งในปี2568 ทั้ง2ประเทศจะมีการจัดกิจกรรมครบรอบ 75 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต โดยเน้นการมีส่วนร่วมในระดับประชาชนและท้องถิ่นให้มากที่สุด 
 

นายกรัฐมนตรีสปป.ลาว กล่าวว่า ไทยและ สปป.ลาวเป็นเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด และมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์และความร่วมมือครอบคลุมทุกมิติ มีการหารือและแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันในหลากหลายโอกาสอย่างสม่ำเสมอ การเดินทางเยือน สปป.ลาวอย่างเป็นทางการครั้งนี้ยังจะได้ติดตามประเด็นความร่วมมือระหว่างกันให้ใกล้ชิดและมีความคืบหน้ามากขึ้น
 
จากนั้นผู้นำทั้งสอง ประเทศ ได้หารือในประเด็นที่น่าสนใจร่วมกัน ที่เป็นปัญหาระหว่างกัน โดยการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและปัญหาข้ามแดนที่สำคัญ โดยทั้งสองประเทศจัดลำดับความสำคัญ (top priorities) 5 ด้าน ได้แก่ (1) ปัญหายาเสพติด (2) แก๊งคอลเซ็นเตอร์ Online Scams (3) การค้ามนุษย์ (4) หมอกควันข้ามแดน และ (5) การบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง
 

นายจิรายุกล่าวว่า สำหรับ ปัญหายาเสพติด หน่วยงานของไทยและสปป.ลาว ได้ร่วมกันจัดทำกรอบแนวทางเชิงรุกในการแก้ไขปัญหาตามชายแดน เป็นผลจากการหารือทางโทรศัพท์ระหว่างอดีตนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน กับนายกรัฐมนตรีนายสอนไซ ซึ่งวันนี้นางสาวแพทองธาร ได้เสนอให้มีการจัดการประชุมระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดของไทย กับเจ้าแขวงชายแดน และหน่วยงานในพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศในต้นปีหน้า เพื่อติดตามและขับเคลื่อนการดำเนินการตามกรอบแนวทางดังกล่าว 
 
ส่วนปัญหาที่ไทยและลาวจะให้ความจริงจังและให้ความสำคัญในการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรม online scams  โดยที่ประชุมขอให้ไทย-สปป.ลาว เร่งรัดการจัดตั้งคณะทำงานปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และ online scams ตามแนวชายแดนไทย-สปป. ลาว และขอให้มีการประชุมอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาให้คืบหน้าเป็นรูปธรรมโดยเร็ว 
 
ปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งเชื่อมโยงกับปัญหา Online Scams เห็นควรให้ขยายผลเพื่อจับกุมและดำเนินคดีกับกลุ่มอาชญากรรมที่อยู่เบื้องหลัง ช่วยเหลือและส่งกลับผู้ที่ถูกหลอกลวงไปทำงานแล้ว และให้ผู้แทนตำรวจระดับสูงของทั้ง2ประเทศมีการหารือเพื่อนำไปสู่การปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมเหล่านี้อย่างเด็ดขาดโดยเร็วที่สุด
 
ประเด็นหมอกควันข้ามแดน ที่ประชุมยินดีที่ในเดือนนี้ กำลังจะมีการเปิดตัวแผนปฏิบัติการภายใต้ CLEAR Sky Strategy ระหว่างไทย สปป. ลาว และเมียนมา ซึ่งในระยะต่อไป ที่ประชุมขอให้มีการเชื่อมโยง Database และ Early Warning System เกี่ยวกับคุณภาพและสภาพภูมิอากาศของไทย สปป. ลาว และประเทศในภูมิภาคเข้าด้วยกัน
 
นายจิรายุกล่าวว่า กรอบที่5 คือการบริหารจัดการน้ำในแม่น้ำโขง นางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรีได้กล่าวขอบคุณนายกรัฐมนตรีนายสอนไซฯที่ได้ส่งสารแสดงความเสียใจเหตุการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ของไทย  และฝ่ายไทยได้แสดงความเสียใจ และเป็นกำลังใจ สปป.ลาว ที่มีอุทกภัยในหลายแขวงด้วยเช่นกัน โดยผู้นำทั้งสองยินดีที่จะมีการลงนาม MOU ด้านการบริหารจัดการน้ำแบบบูรณาการระหว่างกันในวันนี้และจะใช้ประโยชน์จากกรอบความร่วมมือต่างๆ ในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงเพื่อการบริหารจัดการน้ำอย่างเป็นระบบ
 
นอกจากนี้ ไทยและ สปป. ลาว จะเพิ่มความร่วมมือด้านเศรษฐกิจและความเชื่อมโยงระหว่างกัน โดยเฉพาะการค้าการลงทุน เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน โดยเฉพาะสองฝั่งแม่น้ำโขง  รวมทั้งความร่วมมือด้านการท่องเที่ยว ที่ ผ่านมายอดนักท่องเที่ยวระหว่างกันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง  และไทยพร้อมพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์และระบบสาธารณสุขในลาว ภายใต้แผนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ไทย-ลาว ระยะ 3 ปี (ค.ศ. 2022-2025)  สำหรับความร่วมมือด้านแรงงานนั้น นายกรัฐมนตรียืนยัน ไทยต้องการให้แรงงานต่างชาติทุกคนได้เข้าถึงสิทธิและบริการต่าง ๆ ในระหว่างที่ทำงานในไทย ขอให้ไทยและ สปป.ลาว ร่วมกันส่งเสริมให้แรงงานลาวเข้ามาทำงานในไทยโดยผ่านกระบวนการที่ถูกต้อง พร้อมฝากสปป.ลาว ดูแลคนไทย และการลงทุนของไทย ในสปป.ลาว ด้วย

โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร กล่าวชื่นชม ผู้นำในรัฐบาลของ สปป. ลาว ในฐานะประธานอาเซียน สำหรับบทบาทที่แข็งขันเกี่ยวกับเมียนมา ไทยในฐานะเพื่อนบ้านของเมียนมา และจะร่วมมือกับอาเซียนและประเทศเพื่อนบ้านของเมียนมา โดยเฉพาะลาว จีน และอินเดีย เพื่อหาทางออกให้กับสถานการณ์ในเมียนมาโดยเร็ว พร้อมทั้งแสดงความยินดีต่อความสำเร็จในการทำหน้าที่ประธานอาเซียนในปีนี้ 

จากนั้น ผู้นำ ทั้งสองประเทศ ได้ร่วมเป็นสักขีพยานในการลงนาม ความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยและสปป. ลาว จำนวน 6 ฉบับ และการส่งมอบผลการศึกษาและรายละเอียดการออกแบบโครงการก่อสร้างสะพานข้ามน้ำโขงเชียงแมน- หลวงพระบาง ดังนี้ 
1. บันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือ ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแบบบูรณาการ 2. บันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยการสถาปนาความสัมพันธ์เมืองมิตรภาพ จังหวัดขอนแก่นกับนครหลวงเวียงจันทน์  3. บันทึกความเข้าใจด้านความร่วมมือในการบริหารทรัพยากรบุคคล 4. บันทึกความเข้าใจ ระหว่างกรมการค้าภายใน กับ กรมมาตรฐานและวัดแทก  5. บันทึกการดำเนินการด้านเทคนิคสำหรับการขนส่งสินค้าทางรถไฟ 6. และหนังสือแสดงเจตจำนง ระหว่างกรมทางหลวง และ กรมขัวทาง(กรมทางหลวงของประเทศลาว)

แพทองธาร เอาจริง หารือนายกฯสปป.ลาว ปราบแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์-ค้ายาเสพติด