posttoday

แพทองธาร เสนอ อาเซียน พัฒนาทักษะดิจิทัล ส่งเสริมธุรกิจขนาดกลาง-ขนาดย่อย

09 ตุลาคม 2567

แพทองธาร เสนอวิสัยทัศน์ เวทีประชุมสุดยอดผู้นำอาซียน ชู ความเป็นผู้นำร่วมกัน มุ่งแก้ปัญหาสภาพภูมิอากาศ ความมั่นคงมนุกษฐ์ บูรณาการให้ลึกซึ้งเสนอ อาเซียน พัฒนาทักษะดิจิทัล ส่งเสริมธุรกิจขนาดกลาง-ขนาดย่อย เข้าถึงแหล่งทุน เชื่อ ช่วยสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ๆได้

       เวลา 9.30 น. ที่สปป.ลาว นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมการกล่าวถ้อยแถลงในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 44 (แบบเต็มคณะ) เพื่อย้ำถึงความจำเป็นที่อาเซียนต้องมี Collective Leadership หรือ การทำงานร่วมกันระหว่างชาติสมาชิก ในการแก้ไขปัญหาของประชาชน และส่งเสริมการกินดีอยู่ดีของประชาชนกว่า700 ล้านคนในภูมิภาค
        นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้ว่า นโยบายต่างประเทศของไทย มุ่งมั่นที่จะเดินหน้าพัฒนาประชาคมอาเซียน ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญนี้ที่ประเทศสมาชิกอาเซียนต้องเผชิญกับความท้าทายที่ยากและซับซ้อน ทั้งจากการแข่งขันทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่นยางิ ที่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้างในหลายประเทศของสมาชิกอาเซียน เป็นสิ่งย้ำเตือนให้ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญกับการพัฒนา โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง  นอกจากนี้จำเป็นที่จะต้องสร้างประชาคมอาเซียนที่เชื่อมโยงและยืดหยุ่นในแต่ละปัญหาให้มากยิ่งขึ้น
 

 นายกรัฐมนตรีเชื่อว่าความเป็นผู้นำร่วมกัน (collective leadership) พร้อมจะสร้างความแตกต่างและนำไปสู่การแก้ไขปัญหา และความเจริญร่วมกันได้ โดยประเทศไทยได้เสนอประเด็นสำคัญ
            1.ประเด็นด้าน ความยั่งยืน ประเทศไทยในฐานะผู้ประสานงานอาเซียนเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนเห็นว่า อาเซียนต้องร่วมกันดำเนินการด้านสภาพภูมิอากาศ และความเป็นกลางทางคาร์บอน การเปลี่ยนผ่านไปสู่ พลังงานสะอาด การเงินสีเขียว และเศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงนวัตกรรมดิจิทัลเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจในยุคสมัยใหม่นี้จะไม่กระทบสิ่งแวดล้อมหรือเกิดความเสี่ยงด้านสิ่งแวดล้อม ในภูมิภาค
            2. ประเด็นด้าน ความมั่นคงของมนุษย์ ประเทศไทยได้เสนอว่า อาเซียนต้องทำงานร่วมกัน ในการต่อสู้กับทุกวิกฤต เพื่อให้ประชาชนมีอาหาร พลังงาน สิ่งจำเป็นพื้นฐานและควรส่งเสริมการเกษตรอัจฉริยะไปพร้อมๆกับเกษตรยั่งยืน เพื่อวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับผลผลิตและความมั่นคงทางอาหารในระยะยาวของภูมิภาค นอกจากนี้ จะต้องเร่งเสริมสร้างกรอบการทำงานของอาเซียน ในด้านพลังงาน เช่น การเชื่อมโยงโครงข่ายไฟฟ้าของอาเซียน เพื่อการยืดหยุ่นด้านพลังงานในภูมิภาค
          ขณะเดียวกันสมาชิกอาเซียน ควรร่วมกันส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำที่มีพรมแดนระหว่างกัน รวมถึงเพิ่มศักยภาพในการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะการหลอกลวงออนไลน์ แกงค์คอลเซ็นเตอร์ และการปราบปรามการค้ายาเสพติด โดยเพิ่มความเข้มข้นในการควบคุม พื้นที่บริเวณชายแดนระหว่างกัน
 

3.สำหรับประเด็นเรื่อง การบูรณาการระดับภูมิภาคที่ลึกซึ้ง นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการสนับสนุนในความพยายามของอาเซียน ในการปรับปรุงและยกระดับ FTA กับคู่เจรจาและในฐานะที่ไทยเป็นประธานคณะกรรมการเจรจา ASEAN Digital Economy Framework Agreement (DEFA) จะผลักดันการเจรจาให้แล้วเสร็จภายในปีพ.ศ.2568 เพื่อสร้างเครื่องยนต์กลไก เพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจใหม่ๆในอาเซียน นอกจากนี้ยังส่งเสริมการพัฒนาทักษะดิจิทัลสำหรับ ธุรกิจขนาดกลางขนาดย่อม และขนาดย่อย หรือ MSMEs เพื่อเพิ่มการเข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อช่วยสร้างการเติบโตในเศรษฐกิจของโลกที่ผันผวนอยู่ในขณะนี้
           นางสาวแพทองธารยังกล่าวถึง การสร้างความเชื่อมโยงในทุกๆด้านที่จะเป็นกุญแจสำคัญ อาทิ ขอให้อาเซียนส่งเสริมความเชื่อมโยงระหว่างประชาชนต่อกันเป็นพิเศษ เช่น การเพิ่มเที่ยวบินและขยายระยะเวลาการยกเว้นวีซ่า (visa-free) ระหว่างประเทศอาเซียน การส่งเสริมการค้าและการท่องเที่ยว รวมทั้งความร่วมมือกับประเทศพันธมิตรอื่นๆ เพื่อเสริมสร้างความเป็นแกนกลางและความสามัคคี ที่จะทำให้การมีส่วนร่วมของอาเซียนกับประเทศพันธมิตรภายนอก มียุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องมากขึ้น
           สมาชิกอาเซียน ควรหลีกเลี่ยงการเป็นตัวแทนของอำนาจใดๆ หรือปล่อยให้ภูมิภาคนี้ กลายเป็นเวทีแห่งการแข่งขัน เพื่อสร้างสมดุลเชิงยุทธศาสตร์ และไทยจะทำหน้าที่ส่งเสริมสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันอย่างแข็งขันเพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาในภูมิภาค ประเทศไทยจะรอการสถาปนาความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้านระหว่างอาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลี และอาเซียน-นิวซีแลนด์ และประเทศไทย พร้อมสนับสนุนข้อริเริ่มของประเทศมาเลเซียในการจัดการประชุม ASEAN-GCC-China Summit ในปี2568   
           นายจิรายุกล่าวอีกว่า ในช่วงท้ายการประชุม นางสาวแพทองธาร กล่าวแสดงความยินดีกับ สปป.ลาว สำหรับความสำเร็จของการเป็นประธานอาเซียนครั้งนี้ และพร้อมสนับสนุนมาเลเซียในการเป็นประธานอาเซียนวาระถัดไป มั่นใจว่าจะพาประเทศสมาชิกอาเซียนให้พัฒนาในทุกๆด้านต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้

แพทองธาร เสนอ อาเซียน พัฒนาทักษะดิจิทัล ส่งเสริมธุรกิจขนาดกลาง-ขนาดย่อย