ตระกูล"พลซื่อ"ลุ้นศาลรธน.นัดวินิจฉัยปมใบดำเลือกตั้งนายกอบจ.ร้อยเอ็ด
ตระกูลการเมือง"พลซื่อ" รัชนี-เอกภาพ-เอกรัฐ ลุ้นคดีแจกใบดำ ทุจริตเลือกตั้งนายกอบจ.ร้อยเอ็ด ศาลรัฐธรรมนูญยุติไต่สวนปมส่งคำโต้แย้ง กม.การเลือกตั้งท้องถิ่น นัดวินิจฉัยลงมติ 15 มกราคม 2568 เวลา 09.30 น.
ศาลรัฐธรรมนูญ ยุติการไต่สวน เรื่องพิจารณาที่ 25/2567 กรณีศาลอุทธรณ์ภาค4 ส่งคำโต้แย้งของ
นางรัชนี พลซื่อ ส.ส.ร้อยเอ็ด เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ จากเหตุเมื่อครั้งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ปี 2565 เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธธรรมนูญ มาตรา 292 ว่า พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มาตรา 64 (4)และมาตรา 65 วรรคหนึ่ง (2) ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา26 และมาตรา 27 หรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาโดยการอภิปรายแล้วเห็นว่า คดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวนตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่ง กำหนดนัดแถลงด้วยวาจา ปรึกษาหารือ และลงมติในวันที่ 15 มกราคม 2568 เวลา 09.30 น.นางรัชนี ผู้คัดค้านในคดีหมายเลขดำที่ ลต.อบจ.1/2567 และคดีหมายเลขแดงที่ 2391/2567
ย้อนคำไต่สวนกกต.คดีทุจริตเลือกตั้ง
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติเสนอเรื่องให้ศาลฎีกาสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครและสิทธิเลือกตั้ง จากกรณีทุจริตการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายกอบจ.) ร้อยเอ็ดเมื่อปี 2565 นอกจากนางรัชนีจะถูกดำเนินคดีอาญาแล้วยังมีนายเอกภาพ พลซื่อ อดีตสส.ซึ่งเป็นสามี และนายเอกรัฐ พลซื่อ บุตรชาย- ข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ตาม พ.ร.บ.สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 65 (2) ประกอบมาตรา 126 ด้วย
คดีทุจริตเลือกตั้ง นายกอบจ.ร้อยเอ็ด เมื่อปี2565 ตามแนวทางการไต่สวนฟังได้ว่า เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 2565 ศาลอุทธรณ์ ภาค 4 มีคำพิพากษาสั่งให้มีการเลือกตั้งนายกอบจ.ร้อยเอ็ด ใหม่แทน นายเอกภาพ พลซื่อ ที่ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งมีกำหนด 10 ปี นับแต่วันที่มีคำพิพากษา
ต่อมา 10 ส.ค. 2565 ซึ่งเป็นวันกำนันผู้ใหญ่บ้าน ช่วงเวลา 10.00-13.00 น. พยานรวม 17 ปากให้ถ้อยคำยืนยันว่า นางรัชนี นายเอกภาพ นายเอกรัฐ เดินทางไปร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้นใน 7 อำเภอของจังหวัดร้อยเอ็ด คือ อ.เชียงขวัญ อ.ธวัชบุรี อ.ทุ่งเขาหลวง อ. โพธิ์ชัย อ.โพนทอง อ.หนองพอก และ อ.เมยวดี
พฤติการณ์แจกเงินกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน
บุคคลทั้งสามได้มอบเงินสนับสนุนการจัดกิจกรรม ให้แก่ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน อำเภอละ 10,000 บาท ทั้งที่ก่อนหน้านั้นทางชมรมฯ ก็ไม่ได้ขอรับบริจาคเงินจากฝ่ายการเมือง และขณะร่วมงาน นางรัชนี ได้กล่าวผ่านเครื่องขยายเสียงว่า จะลงสมัคร นายกอบจ.ร้อยเอ็ด แทน นายเอกภาพ สามีที่ถูกตัดสิทธิทางการเมือง และขอฝากตนเองในการเลือกตั้งเป็น นายกอบจ.ร้อยเอ็ด ที่จะมีขึ้นด้วย
ส่วน นายเอกภาพ ก็ได้พูดถึงการถูกเพิกถอนสิทธิและขอเสียงสนับสนุนให้ นางรัชนี ได้เป็น นายกอบจ. และในวันที่ 22 ส.ค. 2565 นางรัชนี ก็ได้ลงสมัครรับเลือกตั้ง และในวันที่ 25 ก.ย. 2565 ได้รับเลือกตั้งเป็น นายก อบจ.ร้อยเอ็ด
ทั้งนี้ ตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือ ผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 64 (4) ที่เป็นบทบัญญัติเกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งกำหนดว่า ในกรณีมีการสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ ให้ผู้สมัครหาเสียงเลือกตั้งได้ ตั้งแต่วันที่มีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันก่อนวันเลือกตั้ง บทบัญญัติดังกล่าวจึงมีผลบังคับนับตั้งแต่วันที่ 5 ส.ค. 2565 ซึ่งเป็นวันที่ศาลอุทธรณ์ภาค 4 มีคำพิพากษาสั่งให้มีการเลือกตั้ง นายก อบจ.ร้อยเอ็ดใหม่ แทนนายเอกภาพ
ร่วมกันจูงใจให้เกิดการทุจริตเลือกตั้ง
จากข้อเท็จจริงจึงมีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า การที่ นางรัชนี นายเอกภาพ และนายเอกรัฐ ได้ให้เงินแก่ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านที่จัดงานวันกำนันผู้ใหญ่บ้านขึ้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ นางรัชนี จึงเป็นการฝ่าฝืนพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562มาตรา 65 (2) เป็นเหตุให้ผลการเลือกตั้ง นายก อบจ.ร้อยเอ็ด ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับนางรัชนี เกิดจากการเลือกตั้งที่มิได้เป็นไปโดยสุจริต เที่ยงธรรม ตามพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ. 2562มาตรา 108 วรรคสอง
ปัจจุบัน นางรัชนี พ้นจากตำแหน่ง นายกอบจ.ร้อยเอ็ด แล้ว และอำนาจสั่งให้สส.หยุดปฏิบัติหน้าที่กรณีทุจริตเลือกตั้งเป็นอำนาจศาลฎีกา