posttoday

ครม.ผ่านร่างพระราชกฤฎีกาตั้งสถานบันเทิงรองรับเมืองการบินระยอง

18 ธันวาคม 2567

ครม.ผ่านร่างพระราชกฤษฎีกา อนุญาตตั้งสถานบริการพื้นที่จ.ระยอง เพิ่มเติม 2,662 ไร่ รองรับผู้เดินทางและนักท่องเที่ยว ในเมืองการบินภาคตะวันออก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.2567 ที่มีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมมีมติเห็นชอบ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดระยอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ 

โดยให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตรวจสอบและแก้ไขชื่อผู้มีอำนาจลงนามในแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ให้เป็นปัจจุบันด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย

สำหรับสาระสำคัญของร่างพระราชกฤษฎีกาฯ ประกอบด้วย
                     
1. ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดระยอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่กระทรวงมหาดไทยเสนอคณะรัฐมนตรีได้เคยมีอนุมัติหลักการและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้วเป็นการกำหนดเขตพื้นที่เพื่อการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดระยองเพิ่มเติม จำนวน 2,662 ไร่ ในพื้นที่เมืองการบินภาคตะวันออก (EECa) ท้องที่อำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง จำนวน 3 บริเวณ (จากพื้นที่เมืองการบินภาคตะวันออก (EECa) จำนวน 6,500 ไร่) เพื่อให้การตั้งสถานบริการในท้องที่จังหวัดระยองในการรองรับผู้เดินทางและนักท่องเที่ยวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อันจะเป็นประโยชน์ในการรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน สอดรับกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลและคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกในการกำหนดสิทธิประโยชน์ในเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษ : เมืองการบินภาคตะวันออก ซึ่งจะเป็นการดำเนินการกำหนดพื้นที่สำหรับการอนุญาตให้ตั้งสถานบริการ (Zoning) ตามมติคณะรัฐมนตรี 9 สิงหาคม 2565
                     
 

2. กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซึ่งส่วนใหญ่เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าว และกรมการปกครองได้ตรวจสอบแผนที่ท้ายร่างพระราชกฤษฎีกาฯ แล้ว ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 (เรื่อง แนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับกรณีการตราร่างกฎหมายหรือร่างอนุบัญญัติที่ต้องจัดให้มีแผนที่ท้าย)