“แพทองธาร” เตรียมลุยอรัญประเทศ มุ่งแก้ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้สิ้นซาก
“แพทองธาร” ประกาศจะลงพื้นที่ด่านพรมแดนอรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ศุกร์นี้ ติดตามความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ย้ำจุดยืนจัดการปัญหาอย่างเด็ดขาดต่อเนื่องแบบ "ไม่จบ ไม่เลิก"
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 นายกรัฐมนตรีได้แจ้งต่อที่ประชุมว่าจะเดินทางไปยังด่านพรมแดนตำบลคลองลึก ใกล้ตลาดโรงเกลือ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับบ้านปอยเปต จังหวัดบันทายมีชัย ประเทศกัมพูชา เพื่อติดตามสถานการณ์ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ซึ่งได้รับความร่วมมือจากรัฐบาลกัมพูชา
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าปัญหาคอลเซ็นเตอร์เป็นภัยที่กระทบต่อประชาชนในวงกว้าง และไม่ใช่แค่ปัญหาภายในประเทศ แต่เป็นปัญหาระหว่างประเทศที่ต้องได้รับความร่วมมือจากหลายฝ่าย
ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีในการจัดการปัญหาตามแนวชายแดนเมียนมา แต่ปัจจุบันแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ขยายการดำเนินการไปยังพื้นที่อื่นๆ เช่น ชายแดนลาวและกัมพูชา
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รายงานว่าการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ชายแดนฝั่งตะวันตก อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นที่น่าพอใจ มีการลงโทษข้าราชการที่เกี่ยวข้องด้วยการโยกย้ายและตั้งกรรมการสอบสวน
ขณะเดียวกันยังมีการขยายผลเพื่อตรวจสอบข้าราชการคนอื่นๆ ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้อง ซึ่งพบว่ามีอีกจำนวนไม่น้อยที่กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการลงโทษต่อไป
นอกจากนี้ การประสานงานกับเมียนมาได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี แต่ยังมีประเด็นเรื่องการส่งตัวผู้ต้องสงสัยจำนวนมากที่ทางการเมียนมาจับกุมได้ ซึ่งเป็นคนหลากหลายสัญชาติ ทำให้ต้องมีการคัดกรองและประสานงานกับประเทศต่างๆ เพื่อดำเนินการต่อไป
ด้านนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ รายงานว่าได้ดำเนินการตัดสัญญาณสื่อสารที่ผิดกฎหมายตามแนวชายแดนที่มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์แล้ว พร้อมทั้งสั่งการให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทั้งของรัฐและเอกชนร่วมกันตรวจสอบ ลดความสูงของเสาส่งสัญญาณ และหันสายอากาศกลับเข้ามาในประเทศไทย
นอกจากนี้ยังมีการจัดรถสายตรวจเพื่อสแกนความถี่โทรศัพท์มือถือ หากพบสัญญาณต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยจะทำการบล็อกสัญญาณทันที