เลื่อน! พิจารณาคดีฮั้วสว.เป็นคดีพิเศษ "ภูมิธรรม" ยัน! ไม่เกี่ยวการเมือง
บอร์ดคดีพิเศษ เลื่อนพิจารณาคดีฮั้วสว. "ภูมิธรรม" เผย ต้องตรวจสอบหลักฐาน และเชิญ ประธาน กกต. เข้าให้ข้อมูล ยัน! ไม่เกี่ยวการเมือง
ภายหลังการประชุมคณะกรรมการคดีพิเศษ พิจารณาเรื่อง การฮั้ว เลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภา 2567 เป็นคดีพิเศษ นานกว่า 3 ชั่วโมง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะกำกับหน่วยงานด้านความมั่นคง เป็นประธานคณะกรรมการคดีพิเศษ ออกมาเปิดเผยหลังการประชุมว่า
มติในคณะกรรมการการประชุมปฏิเสธในวันนี้ ส่วนใหญ่เห็นว่าควรเรื่องการพิจารณาออกไปเป็นวันที่ 6 มีนาคม ให้เหตุผลว่าภายหลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับเรื่องจากผู้ร้องเรียนทางกรมสอบสวนคดีพิเศษได้ส่งเรื่องให้กับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ ให้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ก่อนที่ทาง กกต.ได้ส่งหนังสือกลับมายังดีเอสไอให้ดำเนินการสืบสวนนั้น
การประสานงานระหว่างหน่วยงานเป็นระดับเลขานุการ ไม่ได้ผ่านอนุกรรมการคัดกรองของดีเอสไอ จึงถือว่าเอกสารยังดำเนินการไม่ถูกต้องตามขั้นตอน จึงต้องให้กลับไปดำเนินการให้ถูกต้อง รวมถึงยังต้องเชิญ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เข้ามาให้ข้อมูลกับทางคณะกรรมการคดีพิเศษ ในวันที่ 5 มีนาคม ก่อนที่จะมีการพิจารณาในการรับเป็นคดีพิเศษอีกครั้งในวันที่ 6 มีนาคม เพื่อไม่ให้เกิดข้อโต้แย้ง และให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้นต้องกลับไปตรวจสอบให้ชัดเจนและโปร่งใสครบถ้วน ซึ่งในวันที่มีการพิจารณาจะมีตัวแทนของ กกต.เข้าที่ประชุมพิจารณาคดีพิเศษด้วย
ส่วนข้อมูลทางคดีที่จะเข้ามาพิจารณารับเป็นคดีพิเศษนั้น ไปที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าเรื่องดังกล่าวมีมูลในการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน และในข้อหาอั้งยี่ซ่องโจร ซึ่งเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการสืบสวนและขยายผล นอกเหนือจากพยานหลักหลักฐานที่ได้มาเบื้องต้น
การดำเนินคดีทางอาญา ทางกรมสอบสวนคดีพิเศษมีอำนาจเต็มที่ แต่ในส่วนของกฎหมายการเลือกตั้ง เป็นอำนาจของทางกกต. ที่ต้องดำเนินการ แต่หากพูดคุยกันแล้ว กกต.ไม่ดำเนินการ ทางดีเอสไอ ก็มีอำนาจที่จะดำเนินคดีกฎหมายการเลือกตั้งควบคู่กับคดีอาญาไปด้วยได้ แต่ยังคงต้องมีการพูดคุยระวังหน่วยงานให้ชัดเจน
ขณะที่สังคมตั้งประเด็นไปในเรื่องของความขัดแย้งทางการเมือง นายภูมิธรรม ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง หากพบว่าคนในรัฐบาลหรือพรรคร่วมรัฐบาลกระทำความผิด หรือมีแนวโน้ม หรือต้องสงสัยก็ต้องว่าไปตามขบวนการ ไม่กดดันหรือมุ่งไปแก้แค้นใคร ยืนยันทำตามหน้าที่ถ้าไม่ทำก็มีความผิดด้วยเช่นกัน
ท่าทีของ ส.ว. ที่ออกมาทั้งเรื่องการประกาศฟ้องร้องจะทำให้เกิดการกดดันของคณะกรรมการหรือไม่
นายภูมิธรรม ยืนยันว่าไม่กดดัน ดำเนินการสอบสวน ตามข้อกฎหมาย สวนจะกระทำความผิดหรือไม่ให้เป็นดุลยพินิจของศาล แต่การพิจารณาต้องดำเนินการต่อเนื่องจากเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสถาบันนิติบัญญัติ ที่เป็นสถาบันหลักของชาติ และเป็นที่สนใจของประชาชน จะต้องทำด้วยความระมัดระวัง โดยไม่ใช้อำนาจบริหารในการแทรกแซง