'นันทนา' แนะชะลอโหวตตุลาการศาลรธน.จนกว่าคดีฮั้วสว.ได้ข้อยุติ

14 มีนาคม 2568

นันทนา แนะ สว. ชะลอลงมติเลือกตุลาการศาลรธน. จนกว่าคดีฮั้วสว.ได้ข้อยุติ หวั่นส่งผลกระทบระยะยาว-ผู้ดำรงตำแหน่งอาจเป็นโมฆะ ‘ทนายอั๋น‘ หวั่นกระบวนการสรรหาไม่สง่างาม

เมื่อวันที่ 14 มี.ค. 2568 ที่รัฐสภา น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. พร้อมด้วยนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น แถลงกรณีการทำหน้าที่ของ สว.

น.ส.นันทนา กล่าวว่า ในวันที่ 18 มี.ค. สว.จะมีวาระให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 2 คน ซึ่งในกระบวนการที่จะลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบนั้น ยังเป็นที่กังขาของสาธารณชนโดยทั่วไป เพราะขณะนี้การตรวจสอบที่มาของ สว.ทั้งหมด อยู่ในมือของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แล้ว ซึ่งประชาชนยังสงสัยการได้มาซึ่งสว. ฉะนั้น หากจะมีการลงมติในวันที่ 18 มี.ค.นี้ อาจส่งผลกระทบในระยะยาว เนื่องจากการดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระนั้น มีอายุวาระ 7 ปี

น.ส.นันทนา กล่าวต่อว่า หาก สว.ไปลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ และหากบุคคลนั้นเข้าไปดำรงตำแหน่งแล้ว เมื่อการตรวจสอบมีปัญหาว่าไม่สุจริตก็จะทำให้ผู้ที่เป็น สว.นั้น ขาดคุณสมบัติ และถ้าคนที่เป็น สว.ขาดคุณสมบัติแล้วไปลงมติเห็นชอบให้กับผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ จะส่งผลให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งนั้นเป็นโมฆะ ซึ่งจะมีผลกระทบระยะยาว

ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้บรรดาสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมดชะลอการลงมติเห็นชอบองค์กรอิสระในวันที่ 18 มี.ค.นี้ไปก่อน จนกว่าการตรวจสอบของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะตรวจสอบจนสิ้นสงสัย ว่ากระบวนการได้มาซึ่ง สว.นั้นสุจริตโปร่งใส แล้วค่อยมาทำหน้าที่ลงมติกันต่อ ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบในระยะยาว

ขณะที่ นายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยที่จะมีการลงมติในวันที่ 18 มี.ค.นี้ ด้วยข้อห่วงใย 3 ประการ คือ 

1.ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญปัจจุบันพ้นจากวาระไปแล้ว 2 ท่าน ยังคงเหลืออยู่ 7 ท่าน ซึ่ง 7 ท่านนี้ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ และยังไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วน

2.แม้ สว.กลุ่มดังกล่าวจะอ้างว่าตัวเองยังบริสุทธิ์อยู่ แต่การสรรหาบุคคลมาดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องใหญ่จะทำให้ไม่มีความสง่างาม

3.กลุ่ม สว.ได้แถลงข่าวที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ว่า เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการเมือง และแสดงตนว่าอยู่ขั้วการเมืองตรงข้ามกับรัฐบาล แปลว่าองค์กรอิสระที่ สว. คัดเลือกมา ก็อาจจะปฏิบัติหน้าที่อย่างไม่สุจริต หรือกลั่นแกล้งกันทางการเมืองหรือไม่

ทั้งนี้ ได้ไปยื่นเรื่องที่ ป.ป.ช. ขอให้ไต่สวนกรณี สว. ใช้เวทีวุฒิสภาเอาผิด รมว.ยุติธรรม และอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่นั้น เป็นการแจ้งความเท็จหรือไม่ เนื่องจากทั้งสองท่านก็ปฏิบัติตามหน้าที่ ซึ่งทาง ป.ป.ช.ยังไม่ดำเนินการใดๆ แต่หลังจากที่ สว.กลุ่มดังกล่าวไปยื่นต่อ ป.ป.ช. ให้เอาผิด รมว.ยุติธรรม และอธิบดีดีเอสไอ ต่อมาเพียงวันเดียว ป.ป.ช.ก็รับคำร้องไว้แล้ว

Thailand Web Stat