posttoday

ไทย ฟ้องปิดปาก "นักสิทธิมนุษยชน" มากสุดในอาเซียน 9 ปีเฉียด 600 คดี

21 มีนาคม 2568

สส.พรรคประชาชน ชี้ "รัฐบาลเพื่อไทย" ไร้เจตจำนงผลักดันสิทธิมนุษยชน หลังพบข้อมูล ฟ้องปิดปาก "นักสิทธิมนุษยชน" มากสุดในอาเซียน 9 ปีเฉียด 600 คดี

น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว (ลูกเกด)สส.พรรคประชาชน เปิดเผยว่า วันนี้ ตนร่วมเป็นวิทยากร ในงานเปิดตัวรายงาน “การต่อต้านคือพลัง เสริมสร้างกลไกคุ้มครองผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน และนักปกป้องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย”

 

โดยองค์กร Protection International ซึ่งได้มีการเปิดเผยข้อมูลว่า ประเทศไทยใช้กฎหมายฟ้องปิดปากนักปกป้องสิทธิมนุษยชนมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน 9 ปี พบว่ามีเกือบ 600 คดี

 

และยังต้องเผชิญกับการคุกคามในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการกดดัน การโจมตี/ดิสเครดิตบนโลกออนไลน์โดยเเฉพาะผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน

 

ตนได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ตัวเองตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชน (WHRD) ที่เจอทั้งการดำเนินคดีและการคุกคามบนโลกออนไลน์ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องเพศที่มักถูกใช้เป็นเครื่องมือโจมตีผู้หญิงที่ลุกขึ้นมาเรียกร้องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน

 

การคุกคามดังกล่าวส่งผลกระทบเชิงลบในด้านสภาพจิตใจให้แก่ผู้หญิงอย่างมาก บรรยากาศที่ไม่ปลอดภัยเช่นนี้ ทำให้พื้นที่การมีส่วนร่วมทางการเมืองของผู้หญิงหดแคบลงเรื่อยๆ

 

​ดัชนีชี้วัดประชาธิไตยของประเทศ ไม่ได้ดูแค่กลไกของการเลือกตั้ง แต่เพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงความเข้มแข็งของภาคประชาสังคมด้วย ที่ผ่านมานักต่อสู้จำนวนมากถูกคุกคาม มีการจำกัดสิทธิเสรีภาพหนักขึ้นเรื่อย ๆ

 

 พรรคเพื่อไทยเคยโฆษณาตัวเองเป็นพรรคการเมืองที่ยึดมั่นในประชาธิปไตย แต่ทำไมตัวเลขคดีความในยุคไม่ลดลง มีการหยิบคดีในคสช.ขึ้นมาพิจารณาอีกครั้ง แม้แต่คนเป็นสส.เอง ก็ไม่ปลอดภัย ถูกฟ้องโดยรัฐมนตรี ไม่เห็นถึงแนวโน้มในทิศทางทีดีขึ้นเลย

ในส่วนของการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย เกดคิดว่ายังคงย่ำแย่ เพราะรัฐบาลเพื่อไทยขาดเจตจำนงค์การเมืองในการผลักดันเรื่องสิทธิมนุษยชน ไม่เหมือนกับตอนที่หาเสียงเอาไว้

น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว (ลูกเกด) สส.พรรคประชาชน น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว (ลูกเกด) สส.พรรคประชาชน

น.ส.ชลธิชา ย้ำว่า การที่รัฐบาลมีเจตจำนงค์ทางการเมืองในการผลักดันเรื่องต่างๆเป็นเรื่องสำคัญมากๆ เพราะเป็นบันไดขั้นแรก และตราบใดที่ไม่มีเจตจำนงค์ทางการเมือง จะนำไปสู่ก้าวต่อไปในการปกป้อง และคุ้มครองนักปกป้องสิทธิได้อย่างไร

 

นอกจากนั้น ตนได้ใช้เวทีนี้เป็นโอกาสในการอัพเดตและสื่อสารงานที่เกดและเพื่อน สส.กำลังผลักดันกันอยู่ คือการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่มักจะถูกใช้เป็นเครื่องมือในการฟ้องปิดปากประชาชน เช่น ม.116(ยุยงปลุกปั่น), พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์, พ.ร.บ.ชุมนุมสาธาณะ, กฎหมายหมิ่นประมาททั้งปวง

 

ถึงเวลาแล้วที่พวกเราจะต้องปฏิรูปอย่างจริงจัง เป็นต้น และที่สำคัญถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องมี #กฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปาก ซึ่งตอนนี้ ตนและเพื่อน สส. ได้ทำร่างกฎหมายไว้เสร็จแล้วค่ะ เร็วๆนี้จะเริ่มการรณรงค์สื่อสารและรับฟังเสียงจากทุกท่านอีกครั้ง

 

ก่อนจบงาน ทางผู้จัดมีกิจกรรมให้พวกเราร่วมกันประเมินการทำงานของพรรคเพื่อไทยในการสร้างกลไกคุ้มครองผู้หญิงและนักปกป้องสิทธิ ฯ ผ่านการติด “ดาว” หรือ “อุกกาบาต” ซึ่งทุกคนในงานพร้อมใจกันให้ “อุกกาบาต” แก่พรรคเพื่อไทยที่ยังล้มเหลวในการส่งเสริมเรื่องสิทธิมนุษยชนค่ะ

Thailand Web Stat