รังสิมันต์ ซักฟอกนายกฯอิ๊งค์เอื้อประโยชน์ทักษิณปมชั้น14

นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯแพทองธาร ชินวัตร เป็นคนที่2 ต่อจากน.ส.ภคมน หนุนอนันต์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน โดยใช้เวลานานกว่า90นาที

นายรังสิมันต์ เปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯแพทองธาร ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ผู้เป็นบิดาของน.ส.แพทองธาร พักรักษาตัวอยู่ชั้น14 รพ.ตำรวจ เนื้อหาของการอภิปรายชี้ให้เห็นว่า เป็นมหากาพย์แห่งการหลอกลวง

นายกฯแพทองธาร มีพฤติการณ์ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต เห็นแก่ประโยชน์ตนเอง บิดา ครอบครัว เหนือผลประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติ นายกฯแพทองธารสมคบกับพวกพ้องสร้างระบอบอภิสิทธิชนที่อยู่เหนือกฎหมาย น.ส.แพทองธารเป็นผู้ใกล้ชิดกับนายใหญ่มากกว่าทุกคน สามารถยืนยันเรื่องชั้น 14 ได้ดีกว่าใคร

การอภิปรายของนายรังสิมันต์ ไปกล่าวพาดพิงถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีว่าเป็นจุดเริ่มต้นในการกลับมาของนายทักษิณ อย่างปลอดภัยตามดีลลังกาวี โดยมีสส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติท้วงติงการอภิปรายของนายรังสิมันต์ เนื่องจากพล.อ.ประยุทธ์ อยู่นอกรัฐสภา ไม่สามารถชี้แจงข้อกล่าวหาได้

นายรังสิมันต์กล่าวหาว่านายกฯ สมรู้ร่วมคิดเพื่อช่วยเหลือนายทักษิณไม่ให้ติดคุก เชื่อว่าการที่นายทักษิณได้เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจเป็น "ดีลแลกประเทศ" โดยมีนายกฯ เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด

มีการตั้งข้อสังเกตถึงความรวดเร็วในการย้ายนายทักษิณจากเรือนจำไปยังโรงพยาบาลตำรวจ ทั้งที่ตอนแรกมีภาพว่านายทักษิณมีสุขภาพแข็งแรง นายกฯ จงใจให้นายทักษิณดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษเอง ทั้งที่อ้างว่ามีอาการป่วยหนักและมองว่าอาการป่วยของนายทักษิณเป็น "ป่วยทิพย์" เพื่อให้ได้อภิสิทธิ์ในการรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ
 

นอกจากนี้มีการแต่งตั้งและเลื่อนตำแหน่งบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการรักษานายทักษิณ โดยเฉพาะแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และแพทย์ที่ลงนามในใบความเห็นแพทย์ ซึ่งเป็นการตอบแทนทางการเมืองหรือไม่ นายกฯ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือให้นายทักษิณได้เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจและสมรู้ร่วมคิด เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 209 และ 210 ฐานอั้งยี่ ซ่องโจร 

นายรังสิมันต์ ตั้งข้อสังเกตว่านายทักษิณสามารถใช้โทรศัพท์มือถือในระหว่างการรักษาตัวได้ ซึ่งขัดต่อกฎระเบียบของกรมราชทัณฑ์.