posttoday

ศิริกัญญา ซักฟอกนายกฯอิ๊งค์ ปมค่าครองชีพสูง-หนี้ครัวเรือนพ่ง

25 มีนาคม 2568

ศิริกัญญา อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯแพทองธาร ซักฟอกปม "ค่าครองชีพสูง-หนี้ครัวเรือนพุ่ง" สะท้อนเป็นผู้นำที่ไม่มีความรู้ ไม่มีความสามารถด้านเศรษฐกิจ

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาชน อภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ต่อจากน.ส.รักชนก ศรีนอก สส.กรุงเทพฯ เขต 28 พรรคประชาชน

 

โดยพุ่งเป้าไปที่การบริหารงานด้านเศรษกิจที่ผิดพลาดของนายกฯแพทองธาร ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจ 

 

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ว่า ก่อนอื่นตนต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ทำให้คนไทยทั้งประเทศได้ตาสว่างแล้ว ว่ารัฐบาลเพื่อไทยไม่ได้เก่งเรื่องเศรษฐกิจจริงอย่างที่เคยโอ้อวดไว้ ในวันที่ข้ามขั้วประชาชนบางส่วนยอมหลับตาข้างหนึ่งเพราะศรัทธาในอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร

 

แต่วันนี้ประชาชนรู้ตัวแล้วว่าคิดผิด แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้ช้ำใจเท่าความผิดมหันต์ของนายกฯ แพทองธาร คือการทำให้คนร้องหา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่บริหารเศรษฐกิจได้เลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปี

.

“ความเดือดร้อนตอนนี้เกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า ทั้งรายได้ที่ฝืดเคืองของเกษตรกร คนงาน ค่าครองชีพสูง หนี้ครัวเรือนท่วมท้น โรงงาน ห้างร้าน บริษัททยอยปิดตัว คนงานตกงาน ปัญหาเฉพาะหน้าแก้ไม่ได้ ปัญหาโครงสร้างไม่เคยพูดถึงอย่างจริงจัง”

ศิริกัญญากล่าว

 

ชนชั้นแรกที่ถูกแจกความสิ้นหวังอย่างเท่าเทียมคือเกษตรกร เมื่อครู่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ขึ้นมาอธิบาย ส่งข้อมูลบิดเบือนให้นายกฯ ว่าราคาสินค้าเกษตรทุกอย่างยังดี ที่โกหกหน้าตายที่สุดคือการบอกว่าราคาปาล์มอยู่ที่ 5-6 บาทต่อกิโลกรัม

 

ไม่เป็นความจริง ท่านลองไปถามชาวสวนปาล์มดูก็ได้ หรือหน้าเว็บของกระทรวงพาณิชย์เองก็ขึ้นว่า 5-6 บาท ยังมีข้าว อ้อย มันสำปะหลัง และข้าวโพด ที่ดัชนีรายได้เปรียบเทียบเดือนเดียวกันของปีก่อนหน้าราคาตกหมด ทั้งที่พืชสี่ตัวนี้คือ 3 ใน 4 ของผลผลิตเกษตรกรทั้งประเทศ

ปัญหาเงินของเกษตรกรที่ลดลงทุกวันนี้ ตนไม่โทษกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพราะวันนี้ปัญหาอยู่ที่นายกรัฐมนตรีที่ไม่ได้ใส่ใจจริงจังกับการแก้ปัญหา รัฐมนตรีมารายงานอะไรก็เชื่อ ไม่รู้เรื่อง ไม่สามารถให้ทิศทางการแก้ปัญหากับรัฐมนตรีได้ ไม่ได้เตรียมการอะไรล่วงหน้าเผื่อเวลาที่ราคาตก และยังไม่มีน้ำยาพอในการประสานงานให้รัฐมนตรีต่างพรรคทำงานร่วมกันได้ 

 

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อไปว่า หลังจากบริหารได้ 6 เดือน เมื่อถามว่าสิ่งที่ประชาชนมีความกังวลด้านเศรษฐกิจมากที่สุดคืออะไร ประชาชนกว่า 83% บอกว่าคือปัญหาค่าครองชีพสูง คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย กำลังซื้อในประเทศไม่ขยายตัว ซึ่งคนที่มีรายได้น้อยได้กระทบหนักกว่า ราคาสินค้าหลายอย่างเพิ่มขึ้นมาแล้วไม่ลด เช่น น้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ค่าแก๊ส

ศิริกัญญา ซักฟอกนายกฯอิ๊งค์ ปมค่าครองชีพสูง-หนี้ครัวเรือนพ่ง

แม้ตัวเลขเงินเฟ้อจะต่ำ แต่ราคาข้าวของไม่ได้ลดลงทุกรายการเสมอหน้ากัน 3 ใน 4 ของสินค้าที่ซื้อกันยังคงราคาเดิมอยู่หรือเพิ่มขึ้นด้วยซ้ำไป ที่แพงขึ้นไปอีกคือน้ำมันปาล์ม จาก 45 บาทเป็น 62 บาท เนื้อหมูสันนอกจาก 130 กว่าบาท ตอนนี้ 150 บาทแล้ว ฝั่งต้นทุนการผลิตก็ขึ้น ปุ๋ยยูเรียขึ้น ปูนซีเมนต์ก็เพิ่งขึ้น ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าโทรศัพท์มือถือก็ขึ้น ค่าไฟก็แพงขึ้นจากดีลกับนายทุนพลังงาน

 

ที่เงินเฟ้อต่ำแล้วคนยังรู้สึกเดือดร้อนขนาดนี้ ก็เพราะรายได้คนโตไม่ทันค่าครองชีพ รายได้เฉลี่ยของลูกจ้างเอกชนปี 2567 จาก 14,500 บาทเพิ่มขึ้นมาเป็น 14,600 บาท หรือ 0.8% เท่านั้น นี่คือค่าเฉลี่ยของแรงงานในและนอกระบบ 20 ล้านคนรวมกัน

 

นายกรัฐมนตรีขยันออกมาพูดเรื่องจีดีพีว่าจะโต 3-5% แต่ชาวบ้านไม่ได้รู้สึกด้วย เพราะเงินในกระเป๋าประชาชนไม่ได้เพิ่มไปด้วย รายได้ของชาวนาชาวไร่ลดลง 40% รายได้แรงงานก็ไม่โต แล้วชาวบ้านจะสนทำไมว่าจีดีพีปีนี้จะเป็นเท่าไร

นายกรัฐมนตรีนอกจากจะไม่มีความสามารถเพิ่มรายได้ให้ประชาชนแล้ว ยังชอบมาสัญญาลมๆ แล้งๆ สัญญากี่รอบแล้วเรื่องค่าแรง 400 บาท ว่าภายในปี 2567 ได้แน่นอน ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองทำไม่ได้ พ่อนายกฯ ก็เอาไปหาเสียงทุกเวที

 

สุดท้ายได้แค่ 4 จังหวัดกับอีก 1 อำเภอเมื่อต้นปี 2568 แต่ก็ยังให้ความหวังไม่หยุดว่าปี 2568 ได้ครบทั้งประเทศแน่ แต่ประชุมไตรภาคีมา 2-3 รอบแล้วก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะขึ้นเป็น 400 บาทได้

 

นายกรัฐมนตรีบริหารเศรษฐกิจอย่างไรให้เลิกจ้างแรงงานกันเป็นแถว โดยหลังจากแพทองธารขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี บริษัทเลิกกิจการเพิ่มขึ้น 11% แต่เปิดเพิ่มขึ้นแค่ 4% เข้าใจว่าเศรษฐกิจมีปัญหาและต้องใช้เวลาแก้ แต่ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้นคือคนงานถูกเลิกจ้าง หลายโรงงานก็ไม่จ่ายค่าชดเชย ไม่มีเงินมาจ่าย หรือปิดหนีไปแบบไม่มีร่องรอย

 

ที่ผ่านมาเราได้หาช่องทางที่นายกรัฐมนตรีจะสามารถช่วยเหลือบรรเทาให้ได้ เช่น การจ่ายเงินชดเชยจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง ซึ่งได้น้อยมากเมื่อเทียบกับค่าชดเชย

 

แต่ก็ขอยากเย็น แรงงานที่ถูกเลิกจ้างไม่เป็นธรรมมาชุมนุมเรียกร้องหน้าทำเนียบรัฐบาล ท่านเคยสนใจบ้างหรือไม่ กระทรวงแรงงานแจ้งว่าจ่ายได้แต่เงินกองทุนหมดแล้ว ต้องไปของบกลางมา แต่นายกฯ และคณะรัฐมนตรีก็ยังไม่อนุมัติและเตะถ่วงอยู่ได้

Thailand Web Stat