"เท้ง ณัฐพงษ์" ไม่ยอมแพ้ จ่อ นำข้อมูล ยื่นปปช.ถอด "นายกฯอิ๊งค์"
"เท้ง ณัฐพงษ์" ไม่ยอมแพ้ จ่อ นำข้อมูลซักฟอก ยื่นปปช.ถอดถอน "นายกฯอิ๊งค์" ลั่น ยุทธการโรยเกลือ ยังมีอีกหลายช่องทาง
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยภายหลังจบการลงมติอภิปรายไม่ไว้วางใจ
โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจ 319 เสียง ไม่ไว้วางใจ 162 เสียง งดออกเสียง 7 เสียง
นายณัฐพงษ์ กล่วว่า ผลลงมติ 162 เสียง พรรคฝ่ายค้านคิดว่าครบถ้วน พรรคประชาชนมี 2 ท่าน ที่ทราบสถานะ อย่างวานนี้ (25 มี.ค.) น.ส.วรรณิภา ไม้สน เข้าโรงพยาบาล ส่วนนายสิริน สงวนสิน มีปัญหาเรื่องสุขภาพ เราติดตามอยู่ด้วยความเป็นห่วง ส่วนคนอื่น ๆ จะไปสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับพรรคร่วม
ผู้สื่อข่าวถามว่าหลังจบการอภิปรายไม่ไว้วางใจได้มีการถ่ายรูปร่วมกันกับนายกรัฐมนตรี ช่วงเวลานั้นได้มีการพูดคุยกันหรือไม่
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นกระบวนการปกติในสภาฯ ตนตั้งใจเดินไปหานายกฯ เพื่อให้นายกฯชี้แจงหลายอย่างที่เมื่อคืนไม่ได้ชี้แจง ตั้งใจถามนายกฯโดยตรง แต่ยังไม่ได้รับคำตอบอะไร ท่านนายกฯแค่ยิ้ม แล้วถ่ายรูปให้กับกล้อง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าให้นายกฯชี้แจงเรื่องอะไรบ้าง นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เข้าไปเมื่อสักครู่ แสดงสปิริตในการทำหน้าที่ในสภาฯ ไม่ได้ถามทุกคำถาม เพียงแค่ถามประโยคสั้นๆ ว่า
"ท่านนายกฯ เมื่อวานที่รองนายกฯชี้แจง ย้ำนายกฯหลายครั้งเมื่อคืนให้ชี้แจง ท่านก็เงียบ ไม่ได้ชี้แจงอะไร ท่านได้แต่ยิ้ม แล้วถ่ายรูป"
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ฝ่ายค้านจะดำเนินการอย่างไรต่อ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า มีหลายประเด็นกำลังดูข้อกฎหมายอยู่ คิดว่ายุทธการโรยเกลือ ยังมีอีกหลายช่องทาง ไม่ว่าขับเคลื่อนใน กมธ. หรืออะไรก็ตาม แต่มีตามมาแน่นอน
เริ่มมีการพูดคุยในพรรคว่าจะดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งจะเริ่มทำงานวันนี้ทันที ก่อนแถลงได้ประชุมในพรรค คุยหลายประเด็น เริ่มที่จะแบ่งการทำหน้าที่ไปยังส่วนใดบ้าง
เชื่อว่ามีหลายช่องทางที่เราดำเนินการทำได้ ยกตัวอย่าง ภาษีที่เราอภิปรายว่านายกฯวางแผนภาษี แม้จะไม่ได้ร้องเรียนหน่วยงานต่าง ๆ เอาข้อมูลเปิดเผยในสภาฯ ทำให้ครอบครัวนายกฯ เสียภาษีได้ ยังมีอีกหลายช่องทาง เรากำลังศึกษากันอยู่
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกล มาถึงพรรคประชาชนนั้น ต่อต้านมาตลอดกับวิธีการทางการเมือง และการถอดถอนนายกฯจากกลุ่มองค์กรอิสระแต่วันนี้ยังจะยื่นถอดถอนนายกด้วยตัวเอง
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จุดยืนที่เรายืนมาโดยตลอด เราไม่เห็นด้วยกับกระบวนการนิติสงคราม และกลไกสืบทอด คสช. กลั่นแกล้งทางการเมือง แต่เรายังไม่ได้ลงรายละเอียดมาก ต้องดูช่องทางถูกต้อง ตรงไปตรงมา ไม่ใช้กลไกที่เราไม่เห็นด้วย ดูว่ารัฐบาลชุดนี้ไม่มีความชอบธรรม ใช้ช่องไหนดำเนินการต่อได้บ้าง
ส่วนกรณีที่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวานนี้ นายกฯถามผู้นำฝ่ายค้านถึงจุดยืนทางการเมือง ว่าเป็นอย่างไรนั้น
นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า จุดยืน พรรคประชาชนชัดเจนมาโดยตลอด ที่เราประกาศว่าภายใต้สภาฯชุดนี้ เราไม่ร่วมรัฐบาลแน่นอน เราพูดชัดเจนอยู่แล้ว
มุมกลับกันขอถามกลับถึงจุดยืนนายกฯเช่นกันว่าเป็นอย่างไร ย้อนแย้ง หรือตรงข้ามกับจุดยืนเพื่อไทยตลอดหรือไม่ ตอนนี้เร็วไป ที่จะถามคำถามนี้ เราเห็นโดยตลอดว่าแต่ละพรรคโดยเฉพาะพรรคในสภาฯปัจจุบัน มีสถานการณ์เปลี่ยนไป
ย้ายไปรัฐบาลบ้าง ฝ่ายค้านบ้าง ปกติโลกการเมือง สำหรับตนตอบฐานะหัวหน้า ปชน. เราชัดเจนโดยตลอด จุดยืนไม่เคยเปลี่ยน ตอบเร็วไป ก่อนถึงอีก 2 ปีข้างหน้า
ส่วนกรณีที่จุดยืนของพรรคจะเปลี่ยนช่วงไหนนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เดี๋ยวรอมีกระแสใกล้ ๆ ถ้าจะต้องมีการยุบสภาฯ หรือเลือกตั้งใหม่ ช่วงนั้นเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น
ส่วนกรณีจะปกป้อง สส.ในพรรคที่อภิปรายเรื่องราว ๆ ต่างในสภาฯ มีการพาดพิงบุคคลอื่นนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนการดำเนินการต่อ คิดว่าสิ่งที่พวกเราไม่อยากเห็น คือการทำหน้าที่ตรงไปตรงมาของพวกเรา ถูกฟ้องร้องดำเนินคดี แกล้งปิดปากต่าง ๆ
สิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นไม่ได้ยับยั้งให้เราทำหน้าที่ต่อไป ปฏิบัติการไอโอ เสียดายนายชยพล สะท้อนดี สส.กทม. ไม่ได้อภิปรายจนจบ เรามีข้อมูลต่างๆ สะท้อนให้ทุกคนเห็นว่า ฝ่ายการเมืองทุกฝ่ายล้วนเป็นเป้าโจมตีของกองทัพ สิ่งจำเป็นคือปฏิรูปกองทัพ แต่รัฐบาลชุดนี้ล้มเหลว
เมื่อถามว่า ภาพรวมพอใจหรือไม่ เพราะรัฐบาล และนายกฯมองว่าไม่มีข้อมูลใหม่มาซักฟอก นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ขอบคุณการทำหน้าที่ของทุกคน โดยเฉพาะพรรคฝ่ายค้าน เช่น พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หลายคนมีบริบททางการเมืองเปลี่ยนไป ทำหน้าที่เต็มที่ ส่วนข้อมูลใหม่หรือเก่า เรานำเสนอข้อมูลหลายด้าน ในกรอบ
รัฐบาลที่บอกว่าพรรคฝ่ายค้าน อาจไม่ได้มีข้อมูลเก่าอะไรมาก อยากถามกลับไปยังรัฐบาล ถามนายกฯ หลายปัญหาของประเทศนี้ ไม่ใช่ข้อมูลใหม่ เป็นปัญหาเกิดในอดีตหลายปี หลายรัฐบาล คำถามคือเข้าสู่อำนาจแล้ว มีเจตจำนงแก้ไขปัญหาให้ประชาชนมากน้อยแค่ไหน เช่น ค่าไฟแพง เหมืองทองอัครา สัมปทานทางด่วน เป็นต้น
ผู้สื่ิอข่าวถามต่อถึงกรณีที่เวลาในการอภิปรายจากเดิมขอไป 5 วัน แต่ตอนอภิปรายจริงได้เวลาเหลือ 2 วัน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องแยกประเด็น ถ้าอภิปรายเมื่อวานเราใช้เต็มกรอบเวลา แต่ที่เลิกเร็วเพราะนายชยพล ถูกเบรก ไม่ได้อภิปรายให้ครบตามเวลาที่เตรียมไว้ วันแรกเราคิดว่าไม่มีประโยชน์ถ้าดึงให้สภาฯเลิก 05.30 น. เราเน้นดึงให้สภาฯมีประสิทธิภาพมากที่สุด เราต้องการส่งมอบเนื้อหาถึงประชาชนได้อย่างครบถ้วน
เมื่อถามว่า มองเกมของรัฐบาลอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า คิดว่าสิ่งที่สำคัญในฐานะการเป็นผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ตรงไปตรงมา ถึงเวทีแสดงออก การทำหน้าที่ กมธ ใช้กลไกถ่วงดุลตรวจสอบ เราทำเต็มที่ ไม่ใช่พูดอย่างทำอย่าง เกมการเมืองที่หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า เราถ่ายรูปร่วมกัน ให้เสียภาพลักษณ์ เป็นประเด็นเล็กน้อย ประชาชนมองเห็นคือการทำหน้าที่ของเราอย่างคงเส้นคงวา ประเด็นรายวันไม่ได้สำคัญอะไร
ถามย้ำว่าซักฟอกครั้งนี้ไม่เสียของใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่เสียของแน่นอน เราจะดำเนินการต่อแน่นอน ยุทธการโรยเกลือ อยากให้รัฐบาลตั้งรับดี ๆ ข้อมูลที่เรามี หลายอย่างท่านนายกฯยังตอบไม่ได้
ส่วนกรณี สส.ฝ่ายค้าน บางพรรคลงมติโหวตสวน นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ต้องบอกด้วยความให้เกียรติพรรคร่วมฝ่ายค้าน เราไม่สามารถควบคุมเสียงพรรคร่วมฝ่ายค้านได้จริง ๆ เป็นสิ่งที่ต่างคนต่างทำหน้าที่เต็มที่ ภายใต้กลไกของสภา
ซักอีกว่า ปชน.ถูกมองว่าโดนทอดทิ้งโดดเดี่ยว นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องถูกทอดทิ้ง เราไม่ได้กลัวอะไร สิ่งเป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้พวกเราคือประชาชน เกมการเมืองในสภาฯแต่ละพรรคว่าอย่างไร เป็นเรื่องของพวกเขา แต่อำนาจของเรามาจากประชาชนทั้งสิ้น
ส่วนการประเมินรอยร้าวของพรรคร่วมรัฐบาล คิดว่ารัฐบาลนี้จะมีอายุเท่าไหร่นั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เรื่องอายุรัฐบาล คิดว่าอาจประเมินแทนนายกฯ หรือพรรคร่วมรัฐบาลไม่ได้ สิ่งที่พูดแทนได้ในฐานะประชาชนทุกคน ถ้าวันนี้ น.ส.แพทองธาร ยังเป็นนายกฯ อายุคนไทยจะสั้นลงทุกวัน
ถามย้ำว่า คิดว่าจะอยู่จนครบวาระหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เป็นสิ่งที่นายกฯตอบชี้แจงเราไม่ได้ ไม่ว่าเป็นปัญหาในอดีต รัฐบาลชุดนี้ไม่ได้แก้ไข อ้างว่าพรรคฝ่ายค้านไม่มีข้อมูลอะไรใหม่ การทำหน้าที่ปัจจุบันยังไม่ดีพอ เช่นการตอบชี้แจงในสภาฯ หรือตอบกระทู้ถาม ตราบใดประเทศนี้มี น.ส.แพทองธาร เป็นนายกฯ ขาดคุณสมบัติไม่มีเพียงพอ ต้นทุนประเทศนี้สูญเสียไป ไม่มีอะไรมาแลกได้
เมื่อถามถึงประเด็นรัฐบาลชี้แจงเรื่องส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีนมองอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ประเด็นระหว่างประเทศ ละเอียดอ่อน แต่สิ่งที่ต้องยึดมั่นในหลักการคือสากล หลักการสิทธิมนุษยชนต่าง ๆ ไม่ควรดำเนินนโยบายต่างประเทศ เข้าข้างประเทศใดประเทศหนึ่งหรือไม่
เราอยู่ในภูมิรัฐศาสตร์โลก แข่งขันทางการค้าค่อนข้างสูง ส่วนเรื่องอุยกูร์ ทำอย่างไรไม่ให้ไทยฟอกขาวอีกประเทศ สิ่งจำเป็นคือความมีอิสระ คณะทำงานที่ไปตรวจสอบ การเปิดกว้างให้ทุกคนเข้าไปตรวจสอบได้มากกว่า
ถามย้ำว่า คำตอบของรัฐบาลเรื่องอุยกูร์มองว่าเข้าข้างใครหรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า เราเห็นหน้าฉาก คณะทำงาน สื่อบางกลุ่มถูกปฏิเสธไม่ได้ไปด้วย คิดว่ายังมีข้อน่าสงสัยอยู่