“แพทองธาร” ย้ำสร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยว ฟื้นฟูเศรษฐกิจ
นายก “แพทองธาร” ย้ำหัวหน้าส่วนราชการ เร่งฟื้นความเชื่อมั่นท่องเที่ยว หลังวิกฤตแผ่นดินไหว-ปัญหาคอลเซ็นเตอร์ โวยการเมืองบิดเบือนเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์
นายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ย้ำความสำคัญของการสร้างความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ระหว่างการประชุมหัวหน้าส่วนราชการระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่า ครั้งที่ 4/2568 ที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
นายกฯ ระบุว่าเหตุการณ์แผ่นดินไหวและการขึ้นภาษีสินค้าไทยของสหรัฐฯ ในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อเศรษฐกิจไทย พร้อมเน้นย้ำว่าอุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการเป็น "เครื่องยนต์หลัก" ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ
"ดิฉันขอให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ผนึกกำลังทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง เร่งสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว ทั้งจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวและความกังวลเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์" นายกฯ กล่าว พร้อมเน้นย้ำความสำคัญของมาตรการรักษาความปลอดภัยสำหรับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะมาถึง
นอกจากการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า นายกฯ ยังมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย ส่งเสริมเมืองรองให้เป็นเมืองน่าเที่ยว เพื่อกระจายรายได้ตลอดทั้งปี พร้อมยกระดับการท่องเที่ยวไทยสู่รูปแบบพรีเมียม เพิ่มค่าใช้จ่ายต่อหัวให้ไม่ต่ำกว่า 45,000 บาทต่อทริป
นายกรัฐมนตรี ยังเน้นความสำคัญของแผนระยะยาวในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวของภูมิภาค โดยเฉพาะการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการแพทย์
"รัฐบาล ข้าราชการ และทุกภาคส่วน จะร่วมกันทำงานอย่างหนักเพื่อผ่านวิกฤตเหล่านี้ไปด้วยกัน"
นอกจากนี้ น.ส.แพทองธารกล่าวตอนหนึ่งว่า "เรื่องเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ มีประเด็นหลายอย่างมาก ซึ่งเราถูกบิดเบือนในคำพูดว่าเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์คือกาสิโน จริงๆแล้วกาสิโนที่จะถูกกฎหมายคือถูกกฎหมายในเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์
ไม่ได้แปลว่า ประเทศไทยเปิดบ่อนที่ไหนถูกกฎหมายทั้งหมด และในเอนเตอร์เทนเม้นท์คอมเพล็กซ์ก็มีกาสิโน แค่10% ของพื้นที่ไม่ใช่ใครก็ได้เปิดกาสิโนได้หมด ทุกที่เต็มไปด้วยกาสิโนทั้งหมด ไม่จริง นี้เป็นเกมการเมือง เป็นการบิดเบือนความหมายและเจตนา
นโยบายนี้อยู่ในคำแถลงนโยบายต่อรัฐสภา หวังเป็นอย่างยิ่งเราจะได้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ จะเกิดการจ้างงาน จะเกิดการพัฒนาฝีมือแรงงานให้เข้าไปทำงาน ทุกคนต้องมีสกิลที่สูงขึ้น
มีตำแหน่งงานเป็นร้อยเป็นพัน มีการก่อสร้างมีการจ้างงาน ประชาชนก็จะต้องผลิตสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นเพราะในนั้นต้องมีการทานอาหาร ต่างชาติที่อยากได้ของไทยมาที่นี้หมด ถือเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจก้อนใหญ่
แต่ถูกปิดเบือนพูดว่ากาสิโนทั้งหมดไม่ได้เปิดได้ทุกที่ มีแต่ในคอมเพล็กซ์เพื่อเอาเงินเหล่านั้นมาหมุนคืนทุนในการก่อสร้างอยากให้หัวหน้าหน่วยราชการทุกท่านช่วยกันสื่อสารว่า เราไม่ได้เปลี่ยนประเทศให้เป็นประเทศกาสิโน ไม่ใช่อยู่แล้ว มันแค่หนึ่งที่ หนึ่งคอมเพล็กซ์ต่อใบอนุญาต
วันนี้ใครชอบเล่นการพนันเล่นที่ไหนที่นั้นถูกกฎหมายหรือไม่ จ่ายภาษีให้รัฐหรือไม่ มันไม่ถูกกฎหมาย ไม่ได้รับการดูแล แต่มันก็มีอยู่ดี เราต้องรู้ว่าประเทศของเราจะขับเคลื่อนด้วยเศรษฐกิจไปข้างหน้าได้อย่างไรบ้าง"