"แพทองธาร"เยือนกัมพูชานำแผนยุทธศาสตร์หุ้นส่วน สานสัมพันธ์ 75 ปี

ท่ามกลางความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างไทยและกัมพูชา นายกรัฐมนตรี "แพทองธาร ชินวัตร" นำคณะรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 โดยมีวาระสำคัญคือการพิจารณา "แผนปฏิบัติการร่วมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย - กัมพูชา พ.ศ. 2568 - 2569 (Joint Plan of Action for Thailand - Cambodia Strategic Partnership 2025 - 2026)" ซึ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นประเด็นหลักในการเยือนประเทศเพื่อนบ้านอย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 23-24 เมษายน 2568 อันเป็นห้วงเวลาสำคัญของการเฉลิมฉลองครบรอบความสัมพันธ์ทางการทูต 75 ปี

นายกฯแพทองธาร คู่สมรสเยือนกัมพูชา

แผนปฏิบัติการดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องจากการเดินทางเยือนกัมพูชาของนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2567 ซึ่งเป็นการติดตามความคืบหน้าของการหารือระดับผู้นำของทั้งสองประเทศ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับความร่วมมือในหลากหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นด้านการลงทุน การพัฒนาพื้นที่ชายแดน การส่งเสริมการท่องเที่ยว แรงงาน และโลจิสติกส์ รวมถึงการแก้ไขปัญหาข้ามพรมแดนที่ทั้งสองฝ่ายต่างให้ความสำคัญ เช่น ปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน

ในโอกาสนี้ ประเทศไทยได้แสดงความขอบคุณต่อรัฐบาลกัมพูชาสำหรับการอำนวยความสะดวกในการเปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์แห่งความสัมพันธ์อันดี และนำไปสู่กิจกรรมเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 75 ปี ความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองราชอาณาจักร

นายกฯแพทองธาร คู่สมรสเยือนกัมพูชา

การเยือนกัมพูชาของนายกรัฐมนตรี "แพทองธาร ชินวัตร" ในครั้งนี้ มีกำหนดการสำคัญ อาทิ การเข้าพบและหารือเต็มคณะกับสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาแนด นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ณ วิมานสันติภาพ (Peace Palace) การร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารสำคัญต่างๆ ที่จะเป็นรากฐานความร่วมมือในอนาคต และการเป็นประธานร่วมในพิธีเปิดตราสัญลักษณ์เฉลิมฉลองวาระสำคัญดังกล่าว ก่อนที่จะมีการแถลงข่าวร่วมกันเพื่อเปิดเผยผลการหารือและทิศทางความร่วมมือต่อไป

แม้ว่ารายละเอียดฉบับเต็มของ "แผนปฏิบัติการร่วมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ไทย - กัมพูชา พ.ศ. 2568 - 2569" จะยังไม่ถูกเปิดเผยต่อสาธารณชน

นายกฯแพทองธาร คู่สมรสเยือนกัมพูชา

แต่จากบริบทของการยกระดับความสัมพันธ์สู่ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์เมื่อปี 2567 และการครบรอบ 75 ปีความสัมพันธ์ทางการทูตในปี 2568

พอจะคาดการณ์ถึงประเด็นสำคัญที่น่าจะถูกบรรจุในแผนดังกล่าวได้

วิสัยทัศน์ร่วมของทั้งสองประเทศมุ่งเน้นการเสริมสร้างความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่เข้มแข็ง รอบด้าน และยั่งยืน เพื่อนำไปสู่สันติภาพ เสถียรภาพ และความเจริญรุ่งเรืองร่วมกันในภูมิภาค โดยคาดว่าจะครอบคลุมประเด็นสำคัญดังนี้:

ความร่วมมือด้านการเมืองและความมั่นคง: กระชับความร่วมมือด้านความมั่นคงชายแดน การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาชญากรรมไซเบอร์และการหลอกลวงออนไลน์ รวมถึงเร่งรัดการแก้ไขปัญหาเขตแดนที่ยังคงค้างและการยกระดับจุดผ่านแดน

ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ: ส่งเสริมความมั่นคงทางพลังงาน เพิ่มพูนการค้าและการลงทุน โดยมีเป้าหมายมูลค่าการค้ารวม 15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2568 การเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งและพลังงาน รวมถึงแสวงหาความร่วมมือในภาคเศรษฐกิจใหม่ เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า (EVs), เทคโนโลยีทางการเงิน (FinTech) และเทคโนโลยีทางการแพทย์ (MedTech)

ความร่วมมือทางสังคมและวัฒนธรรม: ส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ เสริมสร้างความร่วมมือทางสังคม วัฒนธรรม ศิลปะ และการศึกษา สนับสนุนความร่วมมือด้านแรงงานและการพัฒนาฝีมือแรงงาน ส่งเสริมความเข้าใจและความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชน และดำเนินการตามข้อตกลงการคืนโบราณวัตถุของกัมพูชา

ความร่วมมือในกรอบอาเซียนและประเด็นข้ามชาติ: เสริมสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหามลพิษหมอกควันข้ามแดน โดยจัดตั้งกลไกการทำงานร่วมกัน รวมถึงการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมในระดับต่างๆ การประชุมทวิภาคีระหว่างหน่วยงานภาครัฐ การจัดตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนและภาคประชาสังคม และการกำหนดตัวชี้วัดและกลไกการติดตามความคืบหน้าของการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ

นายกฯแพทองธาร คู่สมรสเยือนกัมพูชา

การเยือนกัมพูชาของนายกรัฐมนตรี "แพทองธาร ชินวัตร" ในครั้งนี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสานต่อและขับเคลื่อนความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทยและกัมพูชาให้ก้าวหน้าไปอีกขั้น โดยมี "แผนปฏิบัติการร่วมความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ฯ" เป็นกลไกสำคัญในการบรรลุเป้าหมายร่วมกัน และสร้างเสถียรภาพและความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาคต่อไป