นายกฯ ย้ำไม่มีการปรับครม. ยัน”พีระพันธุ์”ไม่มีปัญหาคุณสมบัติ

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แสดงความประหลาดใจต่อกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่แพร่สะพัดในช่วงที่ผ่านมา พร้อมยืนยันว่ายังไม่มีแผนปรับเปลี่ยนตำแหน่งใดๆ ในคณะรัฐมนตรีชุดปัจจุบัน

 

หลังการประชุม ครม.นักสถานที่ ที่จังหวัดนครพนม นายกรัฐมนตรีแถลงข่าวกับสื่อมวลชนถึงกรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถูกร้องเรียนเรื่องการถือหุ้นบริษัทเอกชน ว่าไม่น่าจะมีปัญหาแต่อย่างใด

 

"ทุกคนผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มข้นมากๆ ต้องผ่านขั้นตอนของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ว่าไม่มีลักษณะต้องห้าม ซึ่งทุกท่านผ่านการรับรองและตรวจสอบมาแล้ว รวมถึงตัวดิฉันเองด้วย"  

 

แม้ยังไม่ได้พูดคุยกับนายพีระพันธุ์โดยตรงเกี่ยวกับประเด็นนี้ แต่นางสาวแพทองธารแสดงความเชื่อมั่นว่าไม่น่าจะมีปัญหา เนื่องจากขั้นตอนการตรวจสอบคุณสมบัติมีความเข้มงวดมากขึ้นหลังเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี

 

"เซอร์ไพรส์มาก" กับข่าวลือปรับ ครม.

 

นายกรัฐมนตรีแสดงความรู้สึกประหลาดใจกับกระแสข่าวการปรับ ครม. ที่แพร่สะพัดอย่างต่อเนื่อง

 

"เราเซอร์ไพรส์มากกับข่าว ครม. ที่ออกมา ท่านบิ๊กอ้วน (นายภูมิธรรม เวชยชัย) โดนย้ายกระทรวงเรียบร้อยแล้ว งงเหมือนกัน ความจริงเรื่องแบบนี้ยังไม่ได้เกิดขึ้นในกระบวนความคิดของดิฉัน"  

 

นายกรัฐมนตรียังเสริมว่า "น่าสงสารรัฐมนตรีทุกคน เพราะยังไม่ทันพูดว่าจะปรับเลย กลับกลายว่าการทำงานได้รับผลกระทบ ทุกอย่างยังเหมือนเดิม ยังไม่มีการย้ายกระทรวงใคร ขอให้ทำงานกันอย่างเต็มที่"

 

บรรยากาศผ่อนคลายท่ามกลางกระแสข่าว

 

นายกรัฐมนตรียังได้หยอกล้อนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี ถามว่าปัจจุบันอยู่กระทรวงอะไร โดยนายภูมิธรรมชูสองนิ้วพร้อมตอบว่า "กระทรวงพาณิชย์ กับกระทรวงมหาดไทย"

 

"อ๋อ เตรียมตัวจะย้ายไปมหาดไทยกับพาณิชย์" นายกฯ แซวกลับ ก่อนจะหันไปทางนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยที่ยืนอยู่ใกล้ๆ พร้อมพูดว่า "อะแฮ่มดังมาก" ท่ามกลางเสียงหัวเราะของคณะรัฐมนตรีที่อยู่ในวงแถลงข่าว

 

นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำถึงความสำคัญในการทำงานร่วมกันของคณะรัฐมนตรี โดยเฉพาะในช่วงที่ต้องเผชิญกับความท้าทายทั้งระดับประเทศและระดับโลก "ตัวดิฉันเองต้องพึ่งพา ครม. ทุกท่าน ขอให้สื่อมวลชนและประชาชนให้กำลังใจ ครม. ชุดนี้ เพราะไม่ใช่แค่เจอวิกฤติประเทศธรรมดา แต่เจอวิกฤติโลกด้วยซ้ำ" นายกฯ กล่าวทิ้งท้าย