คนจน4ภาคเตรียมส่งเสบียงหนุนม็อบกทม.

สมาชิกสภาประชาชน 4 ภาค เตรียมเสบียงส่งหนุนกลุ่มผู้ชุมนุม หลังรวมตัวใหญ่ภายในศูนย์ราชการกรุงเทพฯ เพื่อขอความชัดเจนแก้ที่ทำกินจากรัฐบาลชุดใหม่

สมาชิกสภาประชาชน 4 ภาค ที่มาปักหลักอาศัยอยู่ในพื้นที่ บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย ( บสท.) ซึ่งอยู่ติดกับถนนมิตรภาพ ฝั่งขาเข้าตัวเมือง จ.นครราชสีมา ในพื้นที่บ้านนากลาง ต.นากลาง อ.สูงเนิน จ.นครราชสีมา ที่เหลืออยู่เพียงประมาณ 50 ราย จากทั้งหมดกว่า 200 ราย ต่างช่วยกันเก็บเกี่ยวพืชผล อาทิ พริก มะละกอ ต้นหอม และพืชผักนานาชนิด ที่ได้ปลูกไว้เลี้ยงชีพภายในพื้นที่ที่เข้าควบคุมตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา พร้อมกับรวบรวมข้าวสารอาหารแห้ง ถ่าน และอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต จำนวนหนึ่งมาเก็บไว้เพื่อเตรียมใช้เป็นเสบียงส่งไปสนับสนุนพี่น้องแนวร่วมสมาชิกสภาประชาชน 4 ภาค ที่ต่างพากันเดินทางไปรวมตัวกันที่ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ หลังจากใช้สิทธิเลือกตั้งเสร็จสิ้นเพื่อรอการความช่วยเหลือจากรัฐบาลชุดใหม่
 
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เกิดเหตุการณ์ชายชุดดำ 200 คน บุกเผาทำลายชุมชนกลุ่มเครือข่ายสภาประชาชน 4 ภาค ในที่ดินบริษัท ไทยอเมริกัน เท็กไทล์ จำกัด และบริษัท ไทเมล่อน จำกัด ริมถนนพหลโยธิน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทำให้สมาชิกเกิดความวิตกกังวลในความปลอดภัย และต้องการแนวทางช่วยเหลือที่ชัดเจนจากทางรัฐบาลชุดใหม่ ตามที่รัฐบาลชุดเดิมที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ในขณะนั้นได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะมีการจัดสรรงบประมาณจำนวน 1,600 ล้าน เพื่อนำมาให้สมาชิกสภาประชาชน 4 ภาค ที่ได้รับการคัดเลือกกู้ยืมไปจัดซื้อที่ดินทำกินจากทาง บสท.
 
นางทองใบ แพงกิ่ง ชาวต.หนองบัว อ.ปะคำ จ.นครราชสีมา หนึ่งในสมาชิกสภาประชาชน 4 ภาค ที่มาปักหลักอยู่ในศูนย์การเรียนรู้การเกษตรแบบพอเพียง นากลาง อ.สูงเนิน กล่าวว่า ตลอดระยะเวลาที่มีเข้ามาอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ก็ถูกกลุ่มนายทุนในพื้นที่มาข่มขู่บังคับในรูปแบบต่างๆตลอดมา ทั้งในรูปของการใช้กำลัง นำรถไถมาปรับพื้นที่หวังไล่ที่ชาวบ้าน แต่สมาชิกต่างก็ช่วยกันต่อสู้เรียกร้องสิทธิ และขอให้มีการใช้กระบวนการทางกฏหมายมาจัดการ จนทำให้เกิดเรื่องฟ้องศาลและกำลังอยู่ในระหว่างรอการพิจารณาอยู่ในขณะนี้ และเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ปทุมธานีขึ้น ก็ยิ่งทำให้สมาชิกในชุมชนแห่งนี้หวาดหวั่นว่าอาจจะกลายเป็นเหยื่อรายต่อไป
นอกจากนี้สมาชิกส่วนหนึ่งเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อต่อสู้เรียกร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลใหม่ด้วยความคาดหวัง  แต่อย่างไรก็ตามยังจำเป็นที่จะต้องมีสมาชิกส่วนหนึ่งปักหลักดูแลพืชผลทางการเกษตรภายในพื้นที่ที่ควบคุม และดูแลป้องกันไม่ให้มีใครเข้ามาทำอันตรายทั้งประชาชนและบ้านเรือนในพื้นที่ ทั้งนี้อยากให้รัฐบาลใหม่มองเห็นถึงปัญหาของประชาชนชาวรากหญ้าที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้ ลงมาแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจังเพื่อความสบายใจของทุกๆฝ่าย
 
ด้านนายอุทัย รัตน์ปรีชา โฆษกสภาประชาชน 4 ภาค เปิดเผยว่า ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา สมาชิกสภาประชาชน 4 ภาค ที่ไร้ที่ดินทำกิน ได้เข้าทำการควบคุมพื้นที่ของ บสท.ในหลายอำเภอ รวมทั้งสิ้น 12 จุด รวมพื้นที่ที่เข้าควบคุมประมาณ 2,000 ไร่ ตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.2553 ที่ผ่านมา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาถูกกลุ่มนายทุนที่ตั้งบริษัทอยู่ในประเทศไทย แต่มีผู้ถือหุ้นใหญ่ชาวต่างชาติ ซึ่งเข้ามาทำสัญญาซื้อ-ขาย กับทาง บรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทยหลังจากที่กลุ่มสภาประชาชน 4 ภาคได้เข้าควบคุม เข้ามาข่มขู่ กดดันให้ชาวบ้านออกจากพื้นที่ทุกวิถีทาง โดยไม่มีภาครัฐใดมาเหลียวแลหรือช่วยเหลือพี่น้องประชาชนเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่สมาชิกทั้งหมดก็ยืนยันที่จะขออยู่ในพื้นที่ต่อไปตามสิทธิที่ยังพึงมี เนื่องจากรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้รับปากและมีการสั่งการดำเนินการเตรียมจัดสรรงบประมาณมาให้พี่น้องได้กู้ยืมเพื่อมาจัดซื้อที่ดินที่อยู่ในความครอบครองของ บสท. ที่ถูกปล่อยให้รกร้างไม่ได้ใช้ทำประโยชน์ ซึ่งก็หวังว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามาสานต่อสิ่งที่รัฐบาลชุดเดิมเริ่มไว้ เพื่อประชาชนที่ไร้ที่ดินทำกินลืมตาอ้าปากได้เสียที

ภาพประกอบข่าว