มาเอ๊ยขวัญมาเด้อตามรอย"ยิ่งลักษณ์"ทัวร์อีสาน

ทีมข่าวภูมิภาค

จากเมืองหลวงห้วงสถานการณ์ร้อนๆ ของม็อบ กปปส. กับข้อเรียกร้องให้ลาออกและปฏิรูปประเทศก่อนจะเลือกตั้งทั่วไป ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ภาคอีสานปฏิบัติภารกิจตั้งแต่วันที่ 17 ธ.ค.เป็นต้นมา จนถึงขณะนี้รวมแล้ว 5 จังหวัด ได้แก่ จ.บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ยโสธร และร้อยเอ็ด

แม้บิ๊กๆ ในรัฐบาลจะปฏิเสธข้อหาหนีการเมือง หนีม็อบ แต่เป็นภารกิจที่กำหนดไว้แล้วล่วงหน้า แต่เมื่อพิจารณาเนื้องานภารกิจแล้ว พบว่า ส่วนใหญ่เป็นการพบประชาชนมากกว่าภารกิจด้านอื่นๆ

17 ธ.ค. เดินทางไป จ.บุรีรัมย์ ภารกิจแรก คือ ตรวจเยี่ยมการก่อสร้างถนนลาดยางบ้านสระขามบ้านเสลา ต.หนองโบสถ์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ เยี่ยมชมผลิตภัณฑ์จากโครงการพัฒนาบทบาทสตรี ช่วงเย็นวันเดียวกันก็เดินทางต่อไปยัง จ.สุรินทร์

18 ธ.ค. ภารกิจแรกที่ จ.สุรินทร์ คือติดตามความคืบหน้าการปรับปรุงสนามบินสุรินทร์ภักดีเพื่อใช้ในเชิงการบินพาณิชย์ ซึ่งใกล้จะเปิดดำเนินการรองรับเศรษฐกิจการค้าชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา

จากนั้นนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะได้นั่งรถไฟเที่ยวพิเศษจาก จ.สุรินทร์ ไปยัง จ.ศรีสะเกษ สำรวจเส้นทางระบบรางสายอีสานใต้หลังปรับปรุงแล้วเสร็จ โดยเฉพาะเส้นทางโคราชอุบลราชธานี ถือว่าเป็นเส้นทางที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถใช้ความเร็วได้จากเดิม 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 90100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งรัฐบาลไทยและลาวเห็นตรงกันที่จะเชื่อมต่อเส้นทางรถไฟจาก จ.อุบลราชธานี ต่อไปปากเซ เพื่อการค้าและการท่องเที่ยว

ถึง จ.ศรีสะเกษ ไปยังวิทยาลัยเทคนิคศรีสะเกษ เยี่ยมโครงการนักเรียนทุนพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จากนั้นเดินทางไป ต.ฟ้าห่วน อ.ค้อวัง จ.ยโสธร พบปะประชาชน ชมการเพาะปลูกหอมแดงตามโครงการเกษตรปลอดภัย

19 ธ.ค. ประชุม นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ประชุมบูรณาการเตรียมความพร้อมป้องกันภัยแล้ง ภัยหนาว อุบัติเหตุทางถนนและอุบัติภัยทางน้ำ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ ศาลากลางจังหวัดร้อยเอ็ด จากนั้นเดินทางโดยเครื่องบินของกองทัพบก กลับ กทม. เพื่อบันทึกเทปอวยพร เนื่องในเทศกาลปีใหม่ 2557 และเป็นประธานการประชุมสภากลาโหม ก่อนจะกลับภาคอีสานอีกครั้งในช่วงเย็น วันที่ 20 ธ.ค. โดยมีกำหนดการที่ จ.อุดรธานี ต่อไปยัง จ.หนองคาย และบึงกาฬ ส่วนภารกิจนั้นยังคงปิดเป็นความลับ

อย่างไรก็ตาม ช่วง 3 วันที่ผ่านมา ในแผ่นดินอีสาน มวลชนที่พากันมาต้อนรับให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีนั้นอุ่นหนาฝาคั่ง ขณะที่กำลังตำรวจรักษาความปลอดภัยก็แน่นหนา

ที่ จ.ร้อยเอ็ด มีการทำพิธีบายศรีสู่ขวัญประชาชนร่วมพิธีกว่า 2 หมื่นคน พราหมณ์ในพิธีสวดบายศรีตอนหนึ่งเป็นภาษาอีสานว่า ขอให้นายกรัฐมนตรีอายุมั่นขวัญยืน ไม่มีภัยใดมาเบียดบัง จากนั้นประชาชนพากันตะโกน “มาเอ๊ยขวัญมาเด้อ” สามครั้ง ทำให้นายกฯ ถึงกับน้ำตาคลอเบ้า

หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าผ่านไปกี่จังหวัด ก็ยังมีมวลชนนกหวีดกลุ่มเล็กๆ แหวกฝ่าวงคนเสื้อแดงเข้าไปเป่านกหวีดทุกจังหวัด

แต่สำหรับ จ.อุดรธานี อาจจะไม่มีม็อบนกหวีดขับไล่ เพราะ ขวัญชัย ไพรพนา ลั่นวาจาว่าไม่ยอมให้เกิดขึ้น ต้องดูว่าขวัญชัยจะทำได้ตามที่ลั่นวาจาหรือไม่