แก้ธรรมกายให้ถึงแก่น

18 กุมภาพันธ์ 2560

แม้จะมีการใช้อำนาจพิเศษ ทุ่มกำลังเป็นจำนวนมาก แต่การจับกุมพระธัมมชโยก็มิใช่ประเด็นสำคัญที่สุดในกรณี “ธรรมกาย”

แม้จะมีการใช้อำนาจพิเศษ ทุ่มกำลังเป็นจำนวนมาก แต่การจับกุมพระธัมมชโยก็มิใช่ประเด็นสำคัญที่สุดในกรณี “ธรรมกาย”

การเข้าไปภายในพื้นที่วัดพระธรรมกาย อาจทำให้รัฐกู้ภาพลักษณ์กลับคืนมาได้ หลังการเตรียมกำลังจะเข้าตรวจค้นวัดพระธรรมกายก่อนหน้านี้ล้มเหลวมาแล้วถึง 2 ครั้ง แต่ก็เป็นเพียงการแสดงพลังอำนาจในเชิงสัญลักษณ์

ขณะที่เนื้อหาสาระที่สำคัญคือ คำสอนและกิจกรรมของวัดพระธรรมกายที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นพุทธพาณิชย์ และหมิ่นเหม่พระธรรมวินัย ตลอดจนบิดเบือนพระธรรมคำสอน กลับยังไม่มีการดำเนินการตรวจสอบให้เกิดความชัดเจน ทั้งที่เป็นประเด็นสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากส่งผลกระทบโดยตรงต่อพระพุทธศาสนา

สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนถึงความไม่จริงจังของฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรณีวัดพระธรรมกาย ซึ่งความไม่จริงจังดังกล่าวส่งผลให้ปัญหาแบบเดิม ความผิดในลักษณะเดิม เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง กระทั่งต้องระดมกำลังเจ้าหน้าที่เข้าปิดล้อมตรวจค้นวัด เป็นข่าวที่ทั้งโลกสนใจ

การตัดสินใจใช้อำนาจพิเศษเพื่อดำเนินการกับพระธัมมชโยในครั้งนี้ น่าจะเป็นโอกาสดีให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องได้ใช้เป็นจุดเริ่มต้นพิจารณากรณีวัดพระธรรมกายกันอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นพุทธพาณิชย์ เผยแพร่คำสอนให้ศรัทธาการทำบุญเพื่อหวังความร่ำรวย ขายแพ็กเกจปฏิบัติธรรม การบิดเบือนพระธรรมคำสอน การจัดกิจกรรมที่เน้นความอลังการ เช่น ให้พระเดินธุดงค์กลางเมือง

การบริหารจัดการภายใน ทั้งวัดพระธรรมกายและมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย อาทิ มูลนิธิธรรมกาย มูลนิธิตะวันธรรม มูลนิธิอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่ต้องตรวจสอบให้เกิดความโปร่งใส ซึ่งที่ผ่านมาในปี 2542 มีการดำเนินคดีพระธัมมชโยฐานยักยอกเงินบริจาคของวัดมาแล้ว แต่สุดท้ายได้คืนเงินดังกล่าวให้แก่ทางวัด และอัยการสูงสุดขอถอนฟ้องคดี ทั้งที่เหลือการสืบพยานอีกเพียงไม่กี่ปาก

นอกจากนี้ ยังมีกรณีบุกรุกพื้นที่ป่าและอุทยานแห่งชาติ เพื่อสร้างสถานปฏิบัติธรรม รวมทั้งสาขาวัดพระธรรมกายในจังหวัดต่างๆ อีกหลายแห่ง ที่สำคัญ ยังมีกรณีของการก่อสร้างอาคารต่างๆ ภายในพื้นที่วัดพระธรรมกายโดยไม่มีการขออนุญาตตามที่กฎหมายกำหนด

สิ่งต่างๆ เหล่านี้คือปัญหา ข้อคลางแคลงใจต่อวัดพระธรรมกายซึ่งยังไม่มีความกระจ่าง ฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องไม่ได้พยายามที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้อย่างจริงจัง รอให้ปัญหาสะสม กระทั่งปะทุเป็นคดีความดังที่เกิดขึ้นและเห็นกันอยู่ในขณะนี้

ถึงแม้ว่าจะมีการจับกุมพระธัมมชโยมาดำเนินคดีได้ แต่ก็ไม่ต่างกับการกะเทาะเปลือกเพียงภายนอก ขณะที่ข้อกล่าวหา ข้อติติงในประเด็นคำสอน การเผยแพร่ กิจกรรมที่หมิ่นเหม่ต่อการเป็นพุทธพาณิชย์ ซึ่งถือเป็นแก่นหลักของกรณีธรรมกาย ยังไม่มีการสอบสวนตรวจสอบให้กระจ่างอย่างจริงจัง

หากทุกฝ่ายยังปล่อยปละละเลยก็จะไม่เกิดผลดีใดๆ และการตรวจสอบข้อเท็จจริงก็มิได้สร้างความมัวหมองแก่พระพุทธศาสนา ตรงข้ามกลับจะยิ่งช่วยให้เกิดความบริสุทธิ์ หมดจดยิ่งขึ้น

ในช่วงกระแสสนใจกรณีวัดพระธรรมกาย จึงเป็นโอกาสอันดีให้ทุกฝ่ายได้ตั้งหลักทบทวน เพื่อเดินหน้าทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาสืบไป

Thailand Web Stat