ศาลยกฟ้อง 8แอดมินเพจล้อเลียน ประยุทธ์-ประวิตร ชวนลอยกระทงยักษ์

07 พฤศจิกายน 2565

ศาลอาญายกฟ้อง กลุ่มแอดมินเพจล้อเลียน ประยุทธ์ - ประวิตร โพสต์รูปตัดต่อ ชวนลอยกระทงยักษ์ เมื่อปี59 ชี้แม้ไม่เหมาะสม แต่ไม่ได้มุ่งหมายล้มล้างรธน.ถือเป็นการแสดงความคิดเห็น ตามสิทธิเสรีภาพ

เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 65 ที่ห้องพิจารณา 813 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษา คดี 8 แอดมินล้อเลียนเพจ"เรารักประยุทธ์"หมายเลขดำ อ.3036/2562 ที่พนักงานอัยการคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้องนายศุภชัย สายบุตร  น.ส.ณัฏฐิกา หรือนัท วรธันยวิชย์  นายนพเก้า คงสุวรรณ นายธนวรรธ บูรณศิริ นายโยธิน มั่งคั่งสง่า นายวรวิทย์ ศักดิ์สมุทรานันท์ นายกัณสิทธิ์ ตั้งบุญธินา และนายหฤษฎ์ มหาทน ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-9 ตามลำดับในความผิดฐานร่วมกันก่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเดื่องขึ้นในหมู่ประชาชนหรือขนาดก่อความไม่สงบขึ้นในราชอาณาจักรอันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร

ตามฟ้องระบุว่า จำเลยทั้งแปด กับพวกที่หลบหนีร่วมกันแบ่งหน้าที่กันทำเปิดเฟซบุ๊กใช้ชื่อว่า "เรารักพลเอกประยุทธ์" มีเนื้อหาการทำงานรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี  โดยจำเลยที่1,2,4 และ 5 เป็นผู้ดูแล(ADMIN)เว็บเพจดังกล่าว   จำเลยที่ 3 มีหน้าที่ตัดต่อรูปภาพ
     
ส่วนจำเลยที่ 6 มีหน้าที่จัดหาข้อมูลตัดต่อรูปภาพ จำเลยที่ 7  มีหน้าที่เผยแพร่เนื้อหา ตัดต่อรูปภาพ  โดยมีจำเลยที่ 8 มีหน้าที่คอยสั่งการและจ่ายค่าจ้างให้จำเลยอื่นๆ และค่าใช้จ่ายในการทำเว็บเพจดังกล่าว

เมื่อระหว่างเดือนพ.ย.58ถึงวันที่ 7 เม.ย.59 จำเลยทั้งแปดร่วมกันโพสต์ภาพใบหน้าพลเอกประยุทธ์ และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม(ขณะนั้น) ตัดต่ออยู่บนกระทง พร้อมข้อความว่า" ร่วมลอยกระทงยักษ์ขับไล่(เผด็จการ)อัปมงคล รำวงสืบสานวิถีราษฎรและกิจกรรมอื่นๆ ที่ลานปรีดี พนมยงค์ มธ.ท่าพระจันทร์

จำเลยทั้งแปดรู้อยู่แล้วว่า การโพสต์ภาพและข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์มุ่งประสงค์ให้ประชาชนที่เห็นภาพและอ่านข้อความดังกล่าวซึ่งเป็นการสร้างความกระด้างกระเดื่อง ให้ประชาชนร่วมกันออกมาขับไล่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ถึงขนาดก่อความวุ่นวายขึ้นในราชอาณาจักร ขอให้ลงโทษพวกจำเลยตามปอ.ม.116,83 และ พ.ร. บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ ศ.2550 ม.14
    
พวกจำเลยได้รับการประกันตัว เดินทางมาศาลพร้อมด้วย นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ โดยน.ส.ณัฏฐิกา ลี้ภัยอยู่ต่างประเทศ 
   
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้ว เห็นว่า การโพสต์ภาพตัดต่อดังกล่าวลงในเพจเฟซบุ๊ก "เรารักพลเอกประยุทธ์"แม้จะมีข้อความที่ไม่เหมาะสม รุนแรงเกินเลยไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้มีความมุ่งหมายชักชวนให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายหรือล้มล้างรัฐธรรมนูญ  

นอกจากนี้ในวันนัดหมายดังกล่าวก็เป็นรวมตัวกันของประชาชนที่ปราศจากอาวุธ และไม่ปรากฎว่าเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆ ดังนั้นการที่จำเลยที่ 1,3 -8 แสดงความคิดเห็นที่แตกต่างไปจากรัฐบาล ก็เป็นไปตามสิทธิ เสรีภาพในวิถีทางตามระบอบประชาธิปไตย พยานหลักฐานที่โจทก์นำสืบมายังไม่พอฟังได้ว่า การกระทำของจำเลยที่ 1,3-8 เป็นความผิดตาม มาตรา 116 จึงพิพากษายกฟ้อง  
  
ด้านนายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความ กล่าวว่า ศาลวินิจฉัย 2 ประเด็นคือ มีหลักฐานในเชิงประจักษ์ที่ได้จากการซักถามในค่ายทหาร ว่า น้องๆที่เป็นจำเลยทั้ง 7 คน ได้โพสต์ภาพและข้อความที่มีการตัดต่อลงในระบบอินเตอร์เน็ต ซึ่งศาลมองว่ามีพยานหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้ แต่หลักฐานต่างๆก็ไม่ยืนยันว่าการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ดังกล่าวนั้นผิดกฎหมายอาญษามาตรา 114 หรือไม่ และการตัดต่อภาพอาจจะเป็นความผิดตามมาตรา 116 

อย่างไรก็ตามศาลได้วินิจฉัยประเด็นต่อมาว่า เนื้อหาที่มีภาพพล.อ.ประยุทธ นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร รองนายกฯ และมีการชักชวนให้ทำกิจกรรมในวันลอยกระทง เมื่อปี 2559 แม้จะมีคำว่าเผด็จการ อัปมงคล หรือ มีรูปภาพของนายกรัฐมนตรี และรองนายกฯ แต่เป็นการแสดงความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ เป็นสิทธิและเสรีภาพตามวิถีทางประชาธิปไตย เนื้อหาก็ไม่ได้เป็นอันตรายหรือชักชวนให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมาย ถือว่าคดีในชั้นต้นสิ้นสุดแล้ว  เมื่อคดีที่โอนมาจากศาลทหารมีหลักฐานไม่สมบูรณ์หรือไม่สามารถพิสูจน์ได้ในเชิงประจักษ์ และศาลได้วินิจฉัยเนื้อหา ซึ่งเป็นองค์ประกอบความผิดแล้วก็ไม่อยากให้อัยการอุทธรณ์คดีอีก
   
สำหรับ น.ส.ณัฏฐิกา หรือนัท นั้นศาลสั่งจำหน่ายคดีไว้ชั่วคราวตั้งแต่ปี 2559 เนื่องจากเชื่อว่าหลบหนี ซึ่งถ้าหากน.ส.ณัฎฐิกา หรือนัท ได้สถานะผู้ลี้ภัยตามกฎหมายระหว่างประเทศ ก็ถือว่ายังอยู่ในต่างประเทศได้ และอาจจะไม่เดินทางกลับมาประเทศไทยก็ได้ หรือ จะกลับมาหลังคดีขาดอายุความก็เป็นสิทธิ ซึ่งก็มีหลายคดีที่รัฐปล่อยให้ขาดอายุความก็เห็นมาแล้ว แต่คดีนี้ก็ไม่ได้มีโทษหนักอะไร

Thailand Web Stat