"สุทิน"เผยทอ.อาจจำเป็นต้องบินหลายเที่ยวอพยพคนไทยในอิสราเอล
สุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม เผย C-130 และAirbus A340ทอ.พร้อมรับคนไทยในอิสราเอลอาจจำเป็นต้องบินหลายเที่ยว ภายใต้มาตรการความปลอดภัยขั้นสูงสุด
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางไปที่ฝูงบิน 601 (กองบิน 6 กองพลบินที่ 1 กองบัญชาการยุทธทางอากาศ)ตรวจความพร้อมเครื่องบิน C-130 จำนวน 5ลำเพื่อใช้ในภารกิจอพยพคนไทยและลำเลียงผู้ป่วยในประเทศอิสราเอล สามารถบรรจุผู้โดยสารได้ลำละ 77คน และเครื่องบินแอร์บัส 340 จำนวน 1 ลำสามารถบรรจุผู้โดยสารได้ 130 คน
สำหรับเครื่องบิน C-130 จะใช้เวลาเดินทาง9-10 ช.ม.เนื่องจากไม่สามารถบินตรงได้ต้องแวะเติมน้ำมันที่ประเทศอินเดีย ขณะที่เครื่องบินแอร์บัสสามารถบินตรงได้แต่ต้องรอให้ประเทศอิสราเอลเปิดน่านฟ้าถึงจะเริ่มภารกิจได้ทันที และภารกิจในครั้งนี้ได้มีทีมแพทย์และเวชศาสตร์การบินเดินทางไปด้วยและล้วนเป็นผู้มีประสบการณ์อพยพคนไทยจากต่างประเทศมาก่อน
นายสุทิน กล่าวว่า วันนี้มาตรวจความพร้อมของกองทัพอากาศได้เตรียมเครื่องบินC-130 และแอร์บัส 340 นอกเหนือจากเความพร้อมด้านครื่องบินแล้วก็ยังมีการเยียวยารักษาผู้เจ็บป่วยระหว่างเดินทางด้วย เหลือเพียงว่าการที่เราจะอพยพคนไทยต้องรอให้ได้รับอนุญาตจากประเทศอิสราเอลก่อนซึ่งกระทรวงการต่างประเทศกำลังเดินดำเนินการให้บินวันไหนได้ทันที
วันนี้เราจัดการทุกอย่างไว้พร้อมและมั่นใจว่าจะดูแลคนไทยได้ ตอนนี้เป็นห่วงสถานการณ์ที่นอกเหนือการควบคุมได้ และอาจรุนแรงขึ้นหรือลดลงส่วนคนไทยที่แสดงความประสงค์กลับประเทศ 1,099คนอาจจำเป็นต้องบินหลายเที่ยวหรือใช้วิธีเช่าเหมาลำเสริมซึ่งในภาวะสงคราม ได้สั่งให้เตรียมความพร้อมสูงสุด โดยในตอนนี้กองบัญชาการกองทัพไทยเป็นเจ้าภาพในการประสานงานความพร้อมกับทุกฝ่าย
ขณะนี้ยังไม่มีประเทศใดอพยพคนของตนเองออกมาจากประเทศอิสราเอลและประเทศไทยได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ แต่หากมีการปิดน่านฟ้ายาวก็จะใช้ประเทศใกล้เคียง ในการอพยพคนไทยแทน เช่นประเทศจอร์แดน ซาอุดิอาระเบีย อียิปต์ ขณะนี้ทำได้แค่ อพยพคนไทยย้ายจากเมืองที่อันตรายก่อน