สหราชอาณาจักรประกาศยกระดับความสัมพันธ์ไทย “หุ้นส่วนยุทธศาสตร์”
ไทย-สหราชอาณาจักร ประกาศยกระดับความสัมพันธ์สู่หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ผลักดันความร่วมมือเศรษฐกิจ การค้า ลงทุน ท่องเที่ยว ความมั่นคง
วันนี้ (20 มีนาคม 2567) ที่ทำเนียบรัฐบาล ลอร์ดแคเมอรอน แห่งชิปปิงนอร์ตัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหราชอาณาจักร เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการ โดยมีนายปานปรีย์ มหิทธานุกร รองนายกฯ และ รมว.การต่างประเทศ เข้าร่วม
นายปานปรีย์กล่าวว่า มีการหารือประเด็นการค้าและการลงทุน ตลอดจนการส่งเสริมให้มีการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหราชอาณาจักร รวมทั้งการเพิ่มเที่ยวบินตรงและการท่องเที่ยวระหว่างกัน และฝ่ายไทยได้ขอให้ฝ่ายสหราชอาณาจักรพิจารณาการยกเว้นวีซ่าด้วย
“การยกระดับความสัมพันธ์ไทย-สหราชอาณาจักร เป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ถือเป็นก้าวสำคัญของความสัมพันธ์ ซึ่งครบรอบ 170 ปี ของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปีหน้า สหราชอาณาจักรเป็นประเทศแรกในภูมิภาคยุโรปที่ไทยประกาศเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์“
ทั้งนี้ นายกฯ และลอร์ดแคเมอรอนฯ ต่างยินดีที่ไทยและสหราชอาณาจักรยกระดับความสัมพันธ์ทวิภาคีให้เป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ ซึ่งลอร์ดแคเมอรอนฯ ได้ร่วมในพิธีลงนามความตกลง Thailand - UK Strategic Partnership Roadmap ณ กระทรวงการต่างประเทศ
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว่า นายกฯ หารือลอร์ดแคเมอรอน รมว.การต่างประเทศสหราชอาณาจักร ยืนยันความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ใกล้ชิดในทุกมิติระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร พร้อมหวังว่าการเดินทางเยือนไทยอย่างเป็นทางการจะช่วยกระชับความร่วมมือในทุกด้าน
สำหรับความร่วมมือทางเศรษฐกิจ นายกฯ เน้นย้ำถึงการให้ความสำคัญของรัฐบาลในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทย ผ่านการเปิดตลาดการค้ากับต่างประเทศ ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ รวมทั้งยกระดับรายได้ให้แก่คนไทย พร้อมเชิญชวนสหราชอาณาจักรเข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ซึ่งลอร์ดแคเมอรอนฯ ยินดีกระชับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจกับไทย และหวังว่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันจะเพิ่มมากขึ้น
โดยลอร์ดแคเมอรอนฯ กล่าวถึงการเดินทางไปพบหารือกับหน่วยงานด้านความมั่นคงของไทย และได้หารือถึงแนวทางกระชับความร่วมมือทางด้านความมั่นคงระหว่างกัน พร้อมขอบคุณไทยที่สนับสนุนการสมัครเข้าร่วมในกรอบการประชุมระหว่างรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนกับรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา (ASEAN Defence Ministers' Meeting Plus) นายกฯ ยินดีที่ความร่วมมือทางด้านความมั่นคงของทั้งสองมีความใกล้ชิด หวังว่าไทยและสหราชอาณาจักรจะร่วมมือกันให้ใกล้ชิดทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี
ด้านความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม นายกฯ ชื่นชมบทบาทของสหราชอาณาจักรในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม ซึ่งลอร์ดแคเมอรอนฯ สนใจกระชับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม กับไทยให้ใกล้ชิดมากขึ้น ผ่านการสนับสนุนในกองทุนความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรมระหว่างประเทศ (International Science Partnership Fund: ISPF) ของสหราชอาณาจักร
“ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสร้างสรรค์ถึงสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งในเมียนมา รัสเซีย-ยูเครน และความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยไทยในฐานะประเทศที่ไม่ได้มีส่วนในความขัดแย้ง มุ่งหวังให้ทุกฝ่ายเจรจาอย่างสันติ เพื่อนำไปสู่ความสงบสุข“ นายชัยกล่าว.