posttoday

"ชัย วัชรงค์"ชี้นำ"ชนินทร์"กลับไทยเร็วสุดในประวัติศาสตร์-ทนายยันสู้คดี

23 มิถุนายน 2567

"ชัย วัชรงค์" ชี้นำตัว "ชนินทร์ เย็นสุดใจ" ถือเป็นอาชญากรทางเศรษฐกิจที่นำกลับเข้ามาได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ ด้าน "เรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี" ทนายของ"ชนินทร์"ยืนยันนายชนินทร์ไม่ได้อยากหนีและอยากกลับมาสู้คดีในไทย ด้านข่าวลือส่งเงิน 8,000 ล้านบาทไปอังกฤษไม่จริง

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การนำตัว“นายชนินทร์ เย็นสุดใจ” อดีตประธานกรรมการ บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK กลับมายังประเทศไทยถือเป็นอาชญากรทางเศรษฐกิจที่สามารถนำกลับเข้ามาได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ และ เป็นการดำเนินการตามคำสั่งของ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ที่ได้สั่งการตั้งแต่เข้ามาเป็นนายกรัฐมนตรีใหม่ๆ ช่วงเดือน ต.ค. 2566  
 
ต่อมาเวลา 9.30 น. นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายของนายชนินทร์ เย็นสุดใจ ให้สัมภาษณ์ว่า นายชนินทร์ ไม่ได้อยากหนีเลยและอยากกลับประเทศไทยเพื่อมาสู้คดี แล้วที่ลือกันว่า มีเงิน 8,000 ล้านบาทส่งไปที่อังกฤษไม่เป็นความจริงเลย และที่มาวันนี้ มีการออกข่าวว่าจับตัวนายชนินทร์มา แต่ที่ตนรู้นายชนินทร์ต้องการกลับบ้าน น่าจะมีข้อตกลงว่าขอกลับบ้านมากกว่าการจับกุม เพราะที่ดูไบนักโทษหนีคดีอยู่เยอะถ้าดีเอสไอหรือตำรวจจะไปจับก็จับได้ทั้งนั้น เขาน่าจะมอบตัวมากกว่าเพื่อกลับมาสู้คดี เพราะทุกอย่างในคดีมาลงนายชนินทร์ทั้งหมดเลย 

“ผมเคยไปดูสำนวนทุกคนบอกนานชนินทร์ทำผิดทั้งนั้นเลย ผมก็ยังสงสัยถ้าคุณชนินทร์ทำผิดจริงมีบางคนทำผิดแบบคุณชนินทร์ทำไมสั่งไม่ฟ้องแล้วทำไมมาฟ้องคุณชนินทร์ เงินบางคนสุจริต คุณชนินทร์ไม่สุจริตหรือ ทำอะไรให้มันมาตรฐานเหมือนกัน”

นายเรืองศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า นายชนินทร์ไม่มีความกังวลอะไรเลย ก็คุยกันปกติว่าเจอกันที่เมืองไทยนะเดี๋ยวผมจะกลับ แล้วที่สังเกตเดินออกมา ถ้าเป็นคนกังวลจะมากกว่านี้ ผู้สื่อข่าวถามว่า นายชนินทร์ถูกคุกคามอย่างไร นายเรืองศักดิ์ ตอบว่า มีการถูกคุกคามจากที่ไหนไม่ รู้ตัวแกน่าจะรู้ดี ตนไม่ทราบเรื่องส่วนตัว ไม่ค่อยถาม แต่ได้ข่าวจากนายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK ที่โดนจับไปก่อนแล้วให้การว่าถูกคุกคามเอาชีวิต นายชนินทร์ก็น่าจะโดนเหมือนกันถึงได้ออกไปต่างประเทศ 
 
เรื่องการประกันตัว เป็นเรื่องกระทันหันจึงยังไม่ได้เตรียมหลักทรัพย์ จะทำตามขั้นตอนระเบียบของศาลทุกอย่าง ไม่ได้มีเจตนาจะฝ่าฝืนอะไรเลยศาลจะสั่งอย่างไร ยอมรับสภาพอยู่แล้ว ผู้สื่เอาจข่าวถามว่า ที่นายชนินทร์หลบหนีไปก่อนหน้านี้ ทางทนายให้คำปรึกษาอย่างไร นายเรืองศักดิ์ กล่าวว่า เขาไม่ได้บอกกับตนเอง แต่พูดกับครอบครัวเขา แต่จริงๆ ตนจะบอกว่าไม่ควรจะหนีเพราะเราไม่ได้ทำความผิด และนายชนินทร์ไม่ใช้โทรศัพท์ติดต่อเลย ผู้สื่อข่าวถามว่าทนายหนักใจหรือไม่ นายเรืองศักดิ์ตอบว่า ทุกคดีหนักใจทั้งนั้น แต่เชื่อในความยุติธรรมของศาล ส่วนระเบียบขั้นตอนการประกันตัว ไม่แน่ใจว่าศาลจะให้หรือไม่เพราะทุกคนที่โดนจับก่อนหน้านี้ไม่ได้รับการประกันตัว จะปฏิบัติตามระเบียบของศาลทุกอย่าง 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่านายชนินทร์ร้องขอความเป็นธรรมอะไรบ้าง นายเรืองศักดิ์ ตอบว่า ในระหว่างที่นายชนินทร์อยู่ต่างประเทศได้ส่งคำร้องให้ตนไปยื่นที่ดีเอสไปและอัยการ แต่ได้รับคำตอบว่าตัวนายชนินทร์ไม่อยู่จะรับเรื่องไว้เฉยๆ โดยเนื้อหาคำร้องปฏิเสธว่าไม่ได้ทำความผิด ได้ให้ข้อเท็จจริงทุกอย่าง เส้นทางการเงิน อำนาจต่างๆในการบริหารบริษัท STARK ก็ชี้แจงไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ ผู้สื่อข่าวถามว่ามีช่องทางต่อสู้คดีอย่างไรบ้าง นายเรืองศักดิ์ตอบว่า ข้อต่อสู้มีอยู่แล้ว ถามว่าทำไมบางคนไม่โดนฟ้อง ข้อหาเดียวกัน ความผิดเดียวกันเส้นทางการเงินเหมือนกัน ทำไมบางคนไม่โดนฟ้องแต่บางคนโดนสั่งฟ้อง ข้อเท็จจริงต้องมี เพราะการสั่งไม่ฟ้องก็ต้องมีเหตุผล ก็จะเอาข้อเท็จจริงนั้นมาต่อสู้คดี 

ผู้สื่อข่าวถามว่าจะเรียกร้องอะไรไปยังกระบวนการยุติธรรมหรือบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง นายเรืองศักดิ์ กล่าวว่า อยากฝากถึงทุกคนที่อยู่ในกระบวนการสอบสวนสืบสวน ขอให้ความเป็นธรรมด้วย ในชั้นอัยการก็เช่นกันถ้าเห็นเหตุผลของนายชนินทร์ที่ยื่นเข้าไปถ้าสมควรสั่งไม่ฟ้องได้ก็สมควรจะสั่งไม่ฟ้อง แต่ถ้าฟ้องก็จะต่อสู้คดีอันนี้ก็แล้วแต่ศาลจะพิจารณาว่าเอกสารทั้งหมดหรือพยานบุคคลให้ข้อมูลในการพิจารณาของศาลเป็นประโยชน์หรือไม่เป็นประโยชน์กับฝ่ายจำเลยหรือฝ่ายไหนน่าจะมีผลมากกว่ากัน