"บิ๊กโจ๊ก"รับได้เปอร์เซ็นต์ชี้ช่องเช่าพระเครื่องแต่ไม่เคยแจ้งบัญชีเท็จ
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร.แจงภรรยา พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ อดีตลูกน้องหน้าห้องทำงานในป.ป.ช.ให้คำปรึกษาการแสดงบัญชีทรัพย์สิน ยันไม่เคยแจ้งเท็จ รับรู้จักเซียนพระชลบุรีและได้เปอร์เซ็นต์จากการชี้ช่องเช่าพระเครื่อง
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. เปิดเผยว่า ยินดีให้ตรวจสอบทรัพย์สิน กรณีกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พบหลักฐานว่ามีเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.3ราย มีพฤติการณ์ช่วยเหลือตกแต่งหลักฐานทรัพย์สินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ โดยยืนยันว่าสามารถชี้แจงได้ทุกประเด็น ไม่ได้มีการสร้างพยานหลักฐานเท็จปกปิดทรัพย์ และยอมรับว่ารู้จักกับ เฮียอั๊ง เซียนพระชลบุรีแต่ไม่รู้จักอดีตผู้ว่าฯโดยตรง
"ในฐานะที่เป็นตำรวจรู้จักคนเยอะ มีหน้าที่แค่ชี้ช่อง การซื้อขายพระเป็นเรื่องระหว่างทั้งคู่ แต่หากมีตกลงเช่าพระ ผมได้รับเปอร์เซนต์ เป็นเรื่องปกติในวงการพระเครื่อง เงินที่ได้ก็เอามาเลี้ยงลูกน้องมาใช้ทำงานในหน้าที่ราชการ ไม่ได้ไปรีดไถหรือได้มาจากเว็บพนัน"พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว
พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ ลูกน้องที่เป็นอดีตหน้าห้องมีภรรยาทำงานอยู่ป.ป.ช. มาช่วยให้คำปรึกษาในการเรื่องการแสดงบัญชีทรัพย์ เป็นหน้าที่ของป.ป.ช.ที่จะให้คำปรึกษา เพื่อให้มีการแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินที่ถูกต้อง
ก่อนหน้านี้ บก.ปปป.ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่ากลุ่มเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.3 รายมีการกระทำผิดนอกเหนือจากเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ทั้ง 3 รายแรกแล้วยังมีผู้เกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก จำนวน 3 คน ประกอบด้วย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พ.ต.ท.คริษฐ์ และเซียนพระในฐานความผิดเป็นผู้ใช้หรือตัวการร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.กรณีดำเนินการหรือสร้างพยานหลักฐานเท็จเกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประกอบการชี้แจงบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กระทั่งมีการออกมาตอบข้อสงสัยดังกล่าว