posttoday

ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งชี้ไม่มีอำนาจชะลอ กกต. รับรอง สว.

06 กรกฎาคม 2567

ศาลฎีกาเเผนกคดีเลือกตั้งยกคำร้อง ผู้สมัคร สว. ยื่นขอชะลอประกาศรับรองผู้สมัครและให้นับคะเเนนใหม่ ชี้ ไม่มีอำนาจ

เมื่อวันที่ 5 ก.ค.ที่ศาลฎีกา สนามหลวง ศาลฎีกาเเผนกคดีเลือกตั้งอ่านคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ ลต สว 323/2567 พลตำรวจโทคำรบ ปัญญาแก้ว เเละนายประหยัด เสนวิรัช  ผู้สมัคร สว. เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) โจทก์ทั้งสองฟ้องสรุปว่า โจทก์ทั้งสองยื่นคำร้องคัดค้านต่อเลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง และคณะกรรมการการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.2567  เกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภาว่าไมโปร่งใสและบริสุทธิ์ยุติธรรมเพราะมีการรวมกลุ่มกันของผู้สมัครบางคนและบางกลุ่ม เพื่อให้มีการลงคะแนนแก่ผู้ใดผู้หนึ่ง ในลักษณะจัดตั้งระบบผู้สมัครด้วยกัน โดยมีผู้วางแผนอยู่เบื้องหลังการกระทำดังกล่าว ซึ่งหากศาลฎีกาสั่งให้มี การเปิดหีบเลือกตั้งและนับคะแนนใหม่โดยช้ระบบเครื่องมือกลหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์ จะทำให้ทราบถึงความไม่ชอบมาพากลดังกล่าว และมีคำขอให้ศาลฎีกามีคำสั่งชะลอการประกาศรับรองผู้สมัครที่ได้รับเลือกทุกกลุ่มไว้ก่อน และให้จำเลยทำการนับคะแนนใหมโดยใช้เครื่องมือกลหรือระบบอิเล็กทรอนิกส์นั้น 

 

เห็นว่า กรณีตามคำฟ้องของโจทก์ทั้งสอง มิใช่เป็นเรื่องที่ผู้สมัครในระดับอำเภอ หรือผู้มีสิทธิเลือกในระดับจังหวัด หรือระดับประเทศ เห็นว่าการดำเนินการเกี่ยวกับการเลือกของคณะกรรมการ ผู้อำนวยการการเลือก หรือพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นไปโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย อันจะมีสิทธิยื่นคำร้องคัดค้านต่อศาลฎีกาภายใน 3วัน นับแต่วันที่มีการออกคำสั่งตาม พรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561มาตรา 44 ซึ่งจะอยู่ในอำนาจการพิจารณาคดีของศาลฎีกา เมื่อไม่เป็นคดีที่โจทก์ทั้งสองสามารถเสนอต่อศาลฎีกาได้โดยตรงแล้ว หากโจทก์ทั้งสองถูกโต้แย้งสิทธิอย่างไร ก็ชอบที่จะยื่นฟ้องตามลำดับชั้นศาลต่อศาลที่มีเขตอำนาจ ส่วนที่โจทก์ทั้งสองยื่นคำร้องขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษาและคำร้องขอไต่สวนฉุกเฉินตามคำร้องลงวันที่3 ก.ค.2567รวม 2 ฉบับ เพื่อให้ศาลฎีกาไต่สวนและมีคำสั่งคุ้มครองสิทธิของโจทก์ทั้งสองในการสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภานั้น เมื่อศาลฎีกาวินิจฉัยแล้วว่า โจทก์ทั้งสองไม่มีสิทธิยื่นคำฟ้องต่อศาลฎีกา จึงไม่ต้องสั่งคำร้องดังกล่าวอีกจึงมีคำสั่งไม่รับคำฟ้อง