"ณฐพร"ยื่นนายกฯอิ๊งค์สอบปมเขากระโดง รมต.-จนท.ก่อความผิดสำเร็จ
ณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นนายกฯแพทองธาร ชินวัตร ตรวจสอบที่ดินเขากระโดง หากไม่ดำเนินการจะยื่นฟ้องผิดประมวลจริยธรรมเรื่องนี้อาจลุกลาม"เลขาธิการภูมิใจไทย"มีชื่อเป็นผู้ถือครองที่ดินด้วย
นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เปิดเผยผ่าน "กรุงเทพธุรกิจ" กรณีการยื่นฟ้องที่ดินเขากระโดง ต่อศาลอาญาทุจริจและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อเอาผิด รัฐมนตรี อธิบดีกรมที่ดิน เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ศาลนัดตรวจคำร้องและตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 9 ธ.ค.67
นายณฐพร กล่าวว่า ที่เขากระโดงเป็นของรฟท.แน่นอน ยึดจากคำวินิจฉัยคณะกรรมการกฤษฎีกา คำพิพากษาศาลฎีกา2สำนวน และศาลอุทธรณ์ภาค3 ซึ่งทั้งหมดถือว่า คดีถึงที่สุดแล้ว
ศาลทุกศาลบอกว่า แต่ละคดีมีการบุกรุกที่ดิน รฟท.จึงมีการสั่งการให้เพิกถอน คำพิพากษาไม่ใช่แค่ผูกผัน35คนที่เป็นจำเลย แต่เป็นการวินิจฉัยที่ดินกว่า 5 พันไร่ ตรงบริเวณเขากระโดงว่าเป็นของรฟท.
คำพิพากษาของศาลปกครองกลาง ยังวินิจฉัยว่าการทำหน้าที่ของอธิบดีกรมที่ดินและกรมที่ดิน ดำเนินการล่าช้าทั้งที่มีหน้าที่ต้องปกป้องทรัพย์สินของแผ่นดิน และของเอกชน การเพิกถอนเอกสารสิทธิบนเขากระโดงกว่า5พันไร่ต้องเพิกถอนทั้งหมด ไม่ใช่ทำรายแปลง เพราะที่ผ่านมา กรมที่ดิน เคยออกสารสิทธิ สค.1 ให้รฟท.มาแล้ว การมาอ้างว่ายังๆม่รังวัดแผนที่ไม่ได้ เพราะทุกหน่วยงานระบุตรงกันว่า ที่ดินบริเวณดังกล่าว เป็นของรฟท.
คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดได้หยิบยกคำพิพากษาตอนหนึ่งของศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ภาค3 และศาลอื่นๆ ยืนยันข้อเท้จจริงว่า ที่ดินบริเวณเขากระโดงกว่า5พันไร่ เป็นของรฟท. ดังนั้นเมื่อกรมที่ดินไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิไม่ว่าจะเป็นของชาวบ้าน หรือของ นักการเมืองบางคน หรือของใครก็ตาม ถือว่าการเป็นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ และส่อเอประโยชน์ให้บุคคลอื่น เรื่องนี้เป็นหน้าที่ของกรมที่ดินไม่ใช่ให้รฟท.ไปไล่ฟ้องแล้วสั่งให้เพิกถอน
เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐไม่ปฏับัติหน้าที่ จึงส่อขัดรธน.มาตรา 3 ขัดหลักความยุติธรรม และกฎหมายอื่นๆ ในฐานะพลเมืองมีหน้าที่โดยตรงและเคยเป็นอดีตเลขาธิการ กมธ.ที่ดิน สภาผู้แทนราษฎร เคยวินิจฉัยคดีนี้ไปแล้วและเคยยื่นคำร้องต่อป.ป.ช.เลยใช้สิทธิได้รับความเสียหาย โดยยื่นฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตฯ เอาผิดรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องตามประมวลจริยธรรมฯ ส่วนปลัดกระทรวงและอธิบดี ดำเนินการตาใประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 และตามพ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 82
นายณฐพร เปิดเผยว่า ได้เตรียมยื่นคำร้องถึงนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ในวันนี้ (2ธ.ค.67) เพราะเป็นหัวหน้ารัฐบาลมีหน้าที่และความจำเป็นต้องสั่งการ ยกตัวอย่างสมัย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯได้นำข้อพิพาทเรื่องดาวเทียม เข้าสู่ที่ประชุมครม.เพื่อพิจารณา และมีการตั้งคณะทำงาน1ชุดเข้ามาดำเนินการ ถ้าหากไม่ดำเนินการจะยื่นฟ้องเอาผิดตามประมวลจริยธรรมฯเช่นกัน
"เรื่องนี้ อาจลุกลามบายปลายไปถึง เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย คนปัจจุบันที่มีนามสกุลชิดชอบ เพราะปรากฏข้อเท็จจริงว่ามีชื่อถือครองที่ดินบริเวณเขากระโดงด้วย ดังนั้นจะมีการยื่นฟ้องเอาผิดตามประมวลกฎหมายจริยธรรมฯเพิ่มเติมในเร็วๆนี้ ตอนนี้ความผิดของเรื่องนี้สำเร็จทั้งหมดแล้ว จึงฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตฯให้ดำเนินการส่วนประเด็นอื่นๆ จะทำเพิ่มเติมอีกตลอดเวลา"
ส่วนสาเหตุสำคัญที่คณะกรรมการสอบสวนฯกรมที่ดิน มติเอกฉันท์ไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิบริเวณเขากระโดงกว่า5พันไร่ นายณฐพร ระบุว่า อาจเป็นเพราะทนายความของนักการเมืองตระกูลใหญ่ ยื่นเรื่องคัดค้านไปยังคณะกรรมการสอบสวนฯ โดยอ้างว่าประเด็นทั้งหมดข้างต้นยังไม่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา จึงยังไม่มีผลบังคับใช้ หรือระยะห่างทางรถไฟ รวมถึงประเด็นอื่นๆ เช่นคำพิพากษาของศาลอันถึงที่สุดนั้น เป็นการบังคับแต่35คน ที่ถูกยื่นฟ้องไม่เกี่ยวกับที่ดินทั้งแปลงกว่า5พันไร่ เป็นต้น
การกระทำดังกล่าวของทนายความนักการเมืองบางตระกูล และกรมที่ดิน เป็นการใช้กฎหมาย"แบบศรีธนญชัยลอดช่อง"
เมื่อศาลพิพากษาแล้วว่าที่ดินกว่า5พันไร่เป็นของรฟท.กรมที่ดินกับรฟท.ไปทำรังวัด โดยรฟท.เสียเงินกว่า1ล้านบาท แต่หลังรังวัดที่ดินเสร็จ กรมที่ดินบอกว่าไม่ใช่ ถามว่าเอกสารสิทธิของรฟท.คือสค.1 ที่ออกมาเมื่อปี 2498 เขียนชัดว่า ที่ดิน 5,083ไร่ 80วา 8ศอก เป็นของรฟท.และการบุกรุกเอกสิทธิเกิดขึ้นภายหลัง ปี 2498ทั้งสิ้น ดังนั้นเอกสิทธิเหล่านี้จึงเป็นของรฟท.ทั้งหมด.