posttoday

อนุฯปปช.ตีตก 'บิ๊กโจ๊ก' เรียกรับส่วยคาราโอเกะ ผู้ร้องยอมรับใส่ความให้ร้าย

04 ธันวาคม 2567

คณะอนุกรรมการป.ป.ช.ตีตกคำร้องกล่าวหา บิ๊กโจ๊ก สมัยดำรงตำแหน่ง ผู้กำกับการ3 ปคม.กับพวกรวม4คน เรียกรับส่วยคาราโอเกะในพื้นที่ภาคอีสาน เปิดบันทึกถ้อยคำผู้ร้องยอมรับใส่ความให้ร้าย

คณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ที่มีนายสุรศักดิ์ ศรีวิเชียร อดีตผู้พิพากษาศาลอาญา เป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ มีมติตีตกข้อกล่าวหา พล.ต.อ.สุรเชชษชฐ์ หักพาล อดีตรองผบ.ตร. เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้กำกับการ3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ พร้อมพวกรวม4คน กรณี นายเขตสยาม เนาวรังสี เจ้าของร้านคาราโอเกะชื่อ "โบว์ลิ่งเบียร์" อำเภอธาตุพนม จ.นครพนม กล่าวหาฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ใช้อำนาจในตำแหน่งโดยมิชอบ และกรรโชกทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148 157 และ337 เหตุเกิดเมื่อก.พ.-ต.ค.2553 
 

คณะอนุกรรมการฯพิจารณาข้อเท็จจริงมีความยาว 84 หน้ากระดาษมีมติเห็นว่า กรณีกล่าวหาพล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผู้กำกับการ3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ เรียกรับเงินจาก ผู้ประกอบการคาราโอเกะและแหล่งอบายมุขต่างๆ ในเขตพื้นที่ภาคอีสาน ยังรับฟังไม่ได้ว่ามีมูลความผิดตามที่ ถูกกล่าวหา เห็นควรให้ข้อกล่าวหาตกไปตามนัยมาตรา 91 แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และนำเสนอคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เพื่อพิจารณาต่อไป 

 

สำหรับอีก3รายที่คณะอนุกรรมการฯตีตกข้อกล่าวหาไปด้วยในคราวเดียวกันกับ พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ (ชื่อเดิมและตำแหน่งขณะนั้น) , ประกอบด้วย ดาบตำรวจ สถาพร ศรีโลรัมย์  ผู้บังคับหมู่กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ , จ่าสิบตำรวจ ศรีสุวรรณ วงศ์ศิริ  ผู้บังคับหมู่กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ และนายบุญเลี้ยง หรือธนากร แปลนดี หรือชื่อเล่น "จ่าดำ" 

ที่มา สำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริง (คลิ๊กอ่านรายละเอียดทั้งหมด)

ผลการไต่สวนคณะอนุกรรมการฯป.ป.ช.สอดรับกับบันทึกข้อความของจเรตำรวจแจ้งผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสนอผบ.ตร.เมื่อ14มี.ค.2558 ผ่านกองวินัย ลงนามโดย พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รองจเรตำรวจแห่งชาติ รักษาราชการแทนจเรตำรวจแห่งชาติ (สบ.8) ระบุว่า

"นายเขตสยาม รู้สึกสำนึกในความผิดที่เกิดขึ้นไปใส่ร้ายว่า พ.ต.อ.สุรเชษฐ์กับพวกว่ารับส่วยร้านค้าคาราโอเกะ และที่ได้กระทำลงไปเพราะเดือดร้อนเรื่องเงิน ทำให้เป็นเครื่องมือของกลุ่มบุคคลหนึ่ง ขอยืนยันไม่เคยรู้จักกับพ.ต.อ.สุรเชษฐ์มาก่อนและพ.ต.อ.สุรเชษฐ์ก็ไม่เคยเก็บส่วยร้านคาราโอเกะ" 

ที่มา บันทึกข้อความจเรตำรวจ (คลิ๊กอ่ายรายละเอียดทั้งหมด)