โครงการ “นักสืบทุนเทา” อึ้ง! 2 เดือน ประชาชนร้องเรียนกว่า 1,000 เรื่อง
กมธ.พัฒนาเศรษฐกิจ แถลง คืบหน้าโครงการ “นักสืบทุนเทา” อึ้ง! 2 เดือน ประชาชนส่งเรื่องร้องเรียนกว่า 1,000 เรื่อง พบปัญหาทุนต่างชาติใช้นอมินีมากที่สุด
26 ธ.ค. 2567 นายสิทธิพล วิบูลย์ธนากุล ประธานคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยถึงความคืบหน้าล่าสุดตามโครงการ “นักสืบทุนเทา” ซึ่งเป็นช่องทางรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชนต่อกรณีปัญหาสินค้าและธุรกิจต่างชาติผิดกฎหมายและการประกอบธุรกิจผิดกฎหมายผ่านนอมินี
นายสิทธิพล ระบุว่า โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการสร้างแจ้งเบาะแส สนับสนุนการทำงานของภาครัฐ ตลอดจนแก้ไขความเดือดร้อนให้ผู้ประกอบการไทยที่ปัจจุบันได้รับผลกระทบรุนแรงจากสินค้าและธุรกิจต่างชาติผิดกฎหมาย
โดยตั้งแต่เปิดโครงการมาเมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ได้มีประชาชนร้องเรียนเข้ามาใน 6 ประเด็นปัญหา ประกอบด้วย
1) สินค้าที่ไม่มีเครื่องหมาย อย.
2) สินค้าที่ไม่มีเครื่องหมาย มอก.
3) สินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญา
4) ธุรกิจที่เก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) จากผู้บริโภคแต่ไม่สามารถออกใบกำกับภาษี
5) การโอนเงินโดยตรงเข้าบัญชีในต่างประเทศ
6) การประกอบธุรกิจผ่านนอมินีของชาวต่างชาติผิดกฎหมาย
โดยจนถึงวันที่ 26 ธันวาคม 2567 ได้มีประชาชนส่งเรื่องร้องเรียนผ่านโครงการนักสืบทุนเทาเข้ามาแล้วกว่า 1,121 เรื่อง ซึ่งกรรมาธิการฯ ได้เข้าไปตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น คัดกรอง และส่งต่อไปหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วกว่า 1,104 เรื่อง โดยในเชิงสถิติพบว่าเรื่องที่ประชาชนร้องเรียนเข้ามามากสุดคือปัญหานอมินีต่างชาติถึง 447 เรื่อง หรือคิดเป็น 44% ของเรื่องร้องเรียนทั้งหมด รองลงมาคือปัญหาสินค้าไม่มีเครื่องหมาย มอก. 241 เรื่อง หรือคิดเป็น 24% และปัญหาสินค้าไม่มีเครื่องหมาย อย. 180 เรื่อง หรือคิดเป็น 18%
สิทธิพลกล่าวต่อไปว่าในเชิงพื้นที่ จังหวัดที่มีเรื่องร้องเรียนเข้ามามากที่สุดคือกรุงเทพมหานคร กว่า 700 เรื่อง อันดับหนึ่งอยู่ในเขตห้วยขวาง 191 เรื่อง ตามมาด้วยเขตปทุมวัน 95 เรื่อง และเขตราชเทวี 55 เรื่อง จังหวัดรองลงมาคือภูเก็ต มีเรื่องร้องเรียนเข้ามากว่า 150 เรื่อง โดยส่วนใหญ่เกี่ยวกับปัญหานอมินี
โดยในการประชุมคณะกรรมาธิการการพัฒนาเศรษฐกิจวันนี้ ได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 6 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมสรรพากร ธนาคารแห่งประเทศไทย และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อมาให้ข้อมูล ชี้แจงความคืบหน้าถึงการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนที่ได้รับไป
นายสิทธิพล กล่าวต่อไปว่า การแก้ไขปัญหาที่มีการร้องเรียนเข้ามานั้น หน่วยงานมีการดำเนินการรับเรื่องร้องเรียนได้เริ่มมีการทยอยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนแล้ว โดยเรื่องส่วนมากอยู่ระหว่างการดำเนินการ จากเรื่องร้องเรียนกว่า 1,000 เรื่อง ปัจจุบันเสร็จสิ้นไป 72 เรื่อง หรือคิดเป็นประมาณ 7% ซึ่งทางกรรมาธิการได้ขอให้ทุกหน่วยงานเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน และแจ้งความคืบหน้าแก่กรรมาธิการต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลายหน่วยได้ชี้แจงถึงปัญหาและอุปสรรค เช่น โดยเฉพาะได้รับข้อมูลไม่เพียงพอ เช่น ชื่อร้านค้า เลขใบอนุญาต ฯลฯ ซึ่งทางกรรมาธิการได้ขอให้หน่วยงานพิจารณาเข้าร่วมระบบ เพื่อให้หน่วยงานติดต่อกับผู้ร้องเรียนและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ ซึ่งจะช่วยให้การแก้ปัญหารวดเร็ว ลดภาระเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานราชการ ซึ่งปัจจุบันมีเพียงสำนักงาน อย. และ สมอ. ที่เข้าร่วมระบบเท่านั้น
สิทธิพลยังกล่าวว่าโครงการนักสืบทุนเทาจะปิดรับเรื่องร้องเรียนภายในสิ้นปี หรือในวันที่ 31 ธันวาคม 2567 โดยหลังจากนี้กรรมาธิการจะติดตามการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานต่างๆ ภายใน 2-3 เดือนข้างหน้าเพื่อนำมารายงานความคืบหน้าให้แก่ประชาชน ตลอดจนจะมีการจัดทำข้อเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาทั้งหมดเพื่อเสนอรัฐบาลต่อไป
ทั้งนี้ ตนต้องขอขอบคุณสมาคมอีคอมเมิร์ซไทย ที่เป็นพันธมิตรสำคัญของโครงการนักสืบทุนเทา ที่ได้ส่งบุคลากรและเครื่องมือมาช่วยดำเนินโครงการ และขอขอบคุณส่วนราชการทุกหน่วยงานที่เร่งแก้ปัญหาให้ประชาชน โดยทางกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจจะติดตามความคืบหน้าเพื่อมาชี้แจงให้สื่อมวลชนและประชาชนทราบต่อไป